ข่าวสารและสื่อ

อัปเดตข่าวสารจากสื่อหลากหลายช่องทาง ล่าสุดได้ที่นี่

แสนสิริเผยแผนธุรกิจไตรมาส 4/58 เปิดอีก 10 โครงการใหม่ 21,500 ลบ. มั่นใจรายได้ตามเป้าหมาย 35,000 ล้านบาท


แสนสิริเผยแผนธุรกิจไตรมาส 4/2558 เปิดอีก 10 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 21,500 ล้านบาท ไฮไลท์คอนโดมิเนียมแบรนด์ THE LINE (เดอะ ไลน์) และบ้านเดี่ยวแบรนด์เศรษฐสิริ – สราญสิริ และคณาสิริ พร้อมรุกเปิดตัวบ้านเดี่ยวที่โคราช มั่นใจรายได้ตามเป้าหมาย 35,000 ล้านบาท ขณะที่สรุปผลงาน 9 เดือนโกยยอดขายแล้วกว่า 20,500 ล้านบาท เกินกว่า 60% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ตั้งไว้ 33,000 ล้านบาท

บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่และได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องทั้งจากนักลงทุนชาวไทยและชาวต่างชาติ และโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมทำเลแนวรถไฟฟ้า เห็นได้จากโครงการคอนโดมิเนียมของแสนสิริ ซึ่งในปีนี้สามารถปิดการขายได้ทันทีในวันพรีเซลส์ ถึง 3 โครงการ ได้แก่ “เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า” พรีเมี่ยมคอนโดมิเนียม มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท มาสเตอร์พีซของถนนพหลโยธิน ห่างจาก BTS สนามเป้าเพียง 300 เมตร และคอนโดมิเนียมภายใต้การร่วมทุนระหว่างแสนสิริและบีทีเอส “เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต” ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต มูลค่าโครงการเกือบ 6,000 ล้านบาท และล่าสุด “เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71” คอนโดมิเนียมใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS พระโขนง มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท รวมถึงการที่ลูกค้าให้การตอบรับกับโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ต่างๆ และความสำเร็จจากการจัดแคมเปญการตลาดทั้งยอดขายจากคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ภายใต้แคมเปญ “NOW OR NEVER” ที่เพิ่งจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา และแคมเปญการตลาดโครงการคอนโดมิเนียมตากอากาศที่หัวหิน The Joy of Huahin และแคมเปญการตลาดโครงการแนวราบ Make It Yours ส่งผลให้ยอดขายรวมของบริษัทในช่วง 9 เดือน สามารถปิดการขายไปได้ถึง 20,500 ล้านบาทหรือคิดเป็นกว่า 60% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ตั้งไว้ 33,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 200% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 6,800 ล้านบาททำให้เชื่อมั่นว่าในปีนี้กลุ่มบริษัทแสนสิริจะสามารถสร้างยอดขายจากโครงการที่อยู่อาศัยได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน 

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 บริษัทยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 10 โครงการ มูลค่ารวม 21,500  ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการพัฒนาคอนโดมิเนียมประมาณ 5 โครงการและโครงการบ้านเดี่ยวอีกประมาณ 5 โครงการ ทั้งนี้จากความสำเร็จของการพัฒนาคอนโดมิเนียมภายใต้การร่วมทุนระหว่างแสนสิริและบีทีเอส ภายใต้แบรนด์ THE LINE (เดอะ ไลน์) ทั้งโครงการเดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต และ เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71 ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทยังได้เตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ เดอะ ไลน์ โครงการใหม่ คือ “เดอะ ไลน์ ราชเทวี” มูลค่าโครงการ 2,800 ล้านบาท โดยจะเปิดให้ชมห้องตัวอย่างในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ที่ THE LINE Sales Centre (BTS หมอชิต)
 
ขณะที่โครงการที่อยู่อาศัยในแนวราบ จะมีโครงการเปิดใหม่อีกประมาณ 5 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 8,000 ล้านบาท โดยจะเป็นการพัฒนาบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ทั้งหมด ได้แก่ บ้านเดี่ยวทำเลกรุงเทพฯ โซนตะวันออก โครงการ “เศรษฐสิริ พัฒนาการ-อ่อนนุช” มูลค่าโครงการรวม 3,200 ล้านบาท, บ้านเดี่ยวในโครงการ “คณาสิริ วงแหวน – ลำลูกกา”  มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท ซึ่งเปิดตัวต่อเนื่องจากแบรนด์ “คณาสิริ” ที่ได้รับการตอบรับที่ดี รวมทั้งบริษัทยังได้เตรียมบ้าน โคราช โครงการแรกในโคราช ภายใต้แบรนด์ สราญสิริ ชื่อโครงการ “สราญสิริ โคราช” มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าในหัวเมืองใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเตรียมเปิดตัวบ้านเดี่ยวในจังหวัดเชียงใหม่อีก 1 โครงการเพื่อตอบรับความต้องการบ้านเดี่ยวที่เชียงใหม่ที่ยังมีอุปสงค์ตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง
 
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้าย บริษัทจะเดินหน้าพัฒนาโครงการภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้จะใช้กลยุทธ์ด้าน Brand Management ในการใช้แบรนด์ที่อยู่อาศัยต่างๆ ให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น รวมถึงการปรับโครงสร้างองค์กรให้บริหารงานและทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นนอกเหนือไปจากการบริหารงานภายใต้แผนงาน “Engineer For Growth” หรือ EFG ที่นับว่าประสบความสำเร็จและมีประสิทธิภาพ ทั้งการลดสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย เพิ่มยอดโอนและเน้นการสร้างกำไรเพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมายที่ประกาศไว้ โดยบริษัทคาดว่าจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งเป้าหมายยอดขายรวมซึ่งตั้งไว้ 33,000 ล้านบาท และเป้าหมายรายได้รวมซึ่งตั้งไว้ 35,000 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบัน บริษัทมียอดขายในช่วง 9 เดือนแล้วกว่ 20,500 ล้านบาท รวมทั้งมีรายได้ในช่วงครึ่งปีแรกแล้วกว่า 17,000 ล้านบาท โดยคาดว่ารายได้ไตรมาสที่ 3 ของปีนี้จะเติบโตโดดเด่นที่สุดจากการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการ คอนโดมิเนียมที่เริ่มทยอยโอนหลายโครงการ อาทิ โครงการเดอะ เบส พาร์คอีสต์ สุขุมวิท77, ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท บางแสน, ดีคอนโด โคโค่ สุราษฏร์ธานี, เดอะ เดค ป่าตอง ภูเก็ต และ บ้านไม้ขาว ภูเก็ต เป็นต้น