ข่าวสารและสื่อ

นายอุทัย  อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปลายปี 2564 มีสัญญาณที่ดีขึ้น จากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของธนาคารแห่งประะทศไทย( ธปท.) ที่ออกมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและประเมินความเสี่ยง การเก็งกำไรในภาคอสังหาฯ ที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งแสนสิริมองว่า การประกาศผ่อนคลายมาตรการ LTV สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยมาเป็น 100% ถึงสิ้นปี 2565 (จากเดิมที่เพดาน LTV สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยอยู่ที่ระดับ 70-90%) ถือเป็นข่าวดีของทั้งผู้ซื้อและผู้ประกอบการ นับเป็นการปลดล็อกของตลาดอสังหาริมทรัพย์ และเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์กลับมาคึกคักขึ้น เนื่องจากวงเงินของลูกค้าสามารถกู้ได้สูงขึ้น
 

“แสนสิริมองว่าเกณฑ์ LTV ใหม่จะรองรับ Real Demand จริง ที่ไม่ได้เกิดจากการซื้อเพื่อเก็งกำไรในภาคอสังหาฯ เห็นได้จากความต้องการที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนไปของกลุ่มลูกค้า ที่ต้องการบ้านหลังแรกหรือบ้านหลังที่ 2 เพื่อเปลี่ยนหรือขยับขยายที่อยู่อาศัยใหม่ อาทิ กลุ่มลูกค้าที่มีบ้านอยู่แล้ว แต่อยากได้คอนโดมิเนียมในเมืองที่ใกล้ที่ทำงาน หรือใกล้โรงเรียนลูก, กลุ่มลูกค้า มีบ้านหลังแรกอยู่แล้ว แต่ต้องการขยายครอบครัวในบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ขึ้น หรือ กลุ่มลูกค้ามีคอนโดอยู่แล้ว แต่อยากได้บ้าน - ทาวน์โฮมราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท เพื่อเพิ่มพื้นที่อยู่อาศัยให้กว้างขึ้น โดยแสนสิริ จึงได้รวบรวมโครงการที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่จาก 12 โครงการ เป็นเจ้าของบ้านจากแสนสิริง่ายในทุกระดับราคา ตั้งแต่ 1.4 – 36 ล้านบาท อาทิ
 

 

อยากได้คอนโดใหม่ ต้องได้ กู้ได้เต็ม 100% ไม่ต้องดาวน์  หรือซื้อคอนโดราคาเบาๆ เป็นบ้านหลังที่ 2 ใกล้ออฟฟิศ ใกล้โรงเรียนลูก 

ได้แก่ คอนโดมิเนียม ดีคอนโด บลิส ศรีราชา ใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา , ดีคอนโด ไฮด์อเวย์ – รังสิต ใกล้ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต, เดอะ เบส สะพานใหม่ ใกล้สนามบินดอนเมือง, โอกะ เฮาส์, XT เอกมัย, XT ห้วยขวาง, ลา ฮาบานา หัวหิน, เดอะ เบส เซ็นทรัล ภูเก็ต และเอดจ์ เซ็นทรัล – พัทยา เป็นต้น รวมถึงคอนโดมิเนียมที่จ่อคิวแล้วเสร็จในปี 2565 อาทิ XT พญาไท, เดอะ เบส เพชรบุรี - ทองหล่อ และเดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์ค ทุกโครงการอยู่ฟรี 2 ปีและฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอน

 

รวมบ้านใหญ่ กู้เต็มร้อย แม้ราคาเกินสิบล้าน*  ตอบรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการขยายครอบครัว

บ้านเดี่ยวโครงการ บุราสิริ พระราม 2 ราคา 7 - 15 ล้าน*, บุราสิริ วัชรพล ราคา 13.99 - 22 ล้าน*, เศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา 2 ราคา 14 - 36 ล้าน*, เศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ - ประชาชื่น 2 ราคา 14.99 - 30 ล้าน*, เศรษฐสิริ ทวีวัฒนา ราคา 15 - 25 ล้าน* และเศรษฐสิริ พหล – วัชรพล ราคา 13.5 - 30 ล้าน* พร้อมร่วมเสิร์ฟโปรโมชันรับ LTV ใหม่เมื่อจองตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2564 รับโปรสูงสุด ตั้งแต่ 200,000 – 3,000,000 บาท ทุกโครงการฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน

 

 

รวมทาวน์โฮม – บ้าน ต่ำกว่า 10 ล้าน* กู้ได้เต็ม 100  ตอบรับกลุ่มลูกค้าที่อยากเปลี่ยนจากอยู่คอนโด เพิ่มพื้นที่มาอยู่ทาวน์โฮมหรือบ้านเดี่ยว
ทาวน์โฮมสิริ เพลส วงแหวน – ลำลูกกา ราคา 2.29 - 4 ล้าน* รับโปรโมชัน 100,000 บาท, ทาวน์โฮม สิริ เพลส เวสต์เกต ราคา 3.19 - 4 ล้าน* รับโปรโมชัน 100,000 บาท, บ้านและทาวน์โฮมอณาสิริ กรุงเทพ – ปทุมธานี ราคา 4.69 - 6 ล้าน* รับโปรสูงสุด 200,0000 บาท* บ้านและทาวน์โฮม อณาสิริ รังสิต คลอง 2 ราคา 4 - 6 ล้าน* รับแอร์เพิ่ม*, โครงการบ้านเดี่ยวคณาสิริ พระราม 2 – วงแหวน ราคา 4.99 - 6 ล้าน* ลดสูงสุดถึง 200,000 บาท* และสราญสิริ ศรีวารี ราคา 5.29 - 12 ล้าน* รับส่วนลดสูงสุด 1 ล้าน* ทุกโครงการฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน* โปรโมชั่นเมื่อจองตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2564
 
“แสนสิริเชื่อมั่นว่า การประกาศผ่อนคลายมาตรการ LTV นับเป็นการปลดล็อกตลาดอสังหาริมทรัพย์และเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์กลับมาคึกคักขึ้น เนื่องจากวงเงินของลูกค้าสามารถกู้ได้สูงขึ้น ขณะที่ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงปลายปี 2564 ยังมีสัญญาณที่ดีจากการประกาศเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ คาดว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยทยอยฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด 19 ได้เร็วขึ้น โดยแสนสิริเตรียมความพร้อมรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยจากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ นอกจากนี้ แสนสิริยังมีผลงานที่แข็งแกร่งในรอบ 10 เดือน โดยสร้างยอดขายรวมได้แล้วถึง 28,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 90% จากเป้าหมายยอดขาย 31,000 ล้านบาท และมียอดโอนที่อยู่อาศัยแล้วกว่า 24,300 ล้านบาท หรือคิดเป็น 78% จากเป้าหมายยอดโอน 31,000 ล้านบาท ทั้งนี้จากทิศทางที่ดีดังกล่าวแสนสิริเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำผลงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน” นายอุทัย กล่าวปิดท้าย