ข่าวสารและสื่อ

อัปเดตข่าวสารจากสื่อหลากหลายช่องทาง ล่าสุดได้ที่นี่

แสนสิริ ปฏิวัติไลฟ์สไตล์ลูกบ้านยุคใหม่ เปิดตัว ‘Smart Move’ แพลตฟอร์มบริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้า (EV-Car Sharing) ประจำโครงการครั้งแรกของไทย


บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ตอกย้ำการนำเสนอประสบการณ์อยู่อาศัยสมบูรณ์แบบ ผ่านกลยุทธ์เติมเต็มการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้าน (Complete Your Living Experience) ด้วยการแนะนำ “Smart Move” แพลตฟอร์มบริการเช่ายานพาหนะในโครงการของแสนสิริเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตให้กับคนรุ่นใหม่ โดยนำร่องด้วยบริการ EV - Car Sharing บริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้าให้กับลูกบ้านในโครงการที่พักอาศัยครั้งแรกของประเทศไทย ตามเทรนด์เศรษฐกิจแบ่งปัน หรือ Sharing Economy เพื่อที่จะปฏิวัติรูปแบบการใช้ชีวิตที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มผู้อยู่อาศัยในโครงการฯ ตามแนวรถไฟฟ้าและคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้มียานพาหนะของตนเอง โดยจับมือร่วมกับ SHARGE บริษัทผู้ให้บริการเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำและ Haupcar ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มและให้บริการคาร์แชร์ริ่งเจ้าแรกของไทยเข้ามาเป็นพันธมิตรในการบริหารระบบจัดการการจองและปล่อยเช่ารถในรูปแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะสำหรับลูกบ้านในโครงการ พร้อมนำร่องเป็นครั้งแรกที่โครงการ เดอะไลน์ จตุจักร-หมอชิต แสนสิริได้จัดสรรรถยนต์ BMW i3 รถยนต์พลังงานไฟฟ้าคันแรกของโลกที่ผลิตจากเส้นใยพลาสติกจำนวน 2 คันในการให้บริการ พร้อมด้วยแผนขยายบริการ Car Sharing ในโครงการอื่น ๆ เพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้ ตลอดจนขยายผลไปยังยานพาหนะรูปแบบอื่นๆในอนาคตด้วยโดยจะอยู่ภายใต้แพลตฟอร์มใหญ่ คือ “Smart Move”

บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เผยว่า “รูปแบบการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่นับได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก จากแต่ก่อนที่รถยนต์ส่วนบุคคลมีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน แต่ปัจจุบันเมื่อระบบขนส่งมวลชน มีโครงข่ายที่ครอบคลุมและทันสมัยมากขึ้น ทำให้ผู้คนไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อรถยนต์เป็นของตนเอง ทำให้โครงการของแสนสิริที่ใกล้กับศูนย์กลางการคมนาคมได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อาศัยรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินในการเดินทางไปทำงานและสถานศึกษาเป็นหลัก ทั้งนี้เมื่อแสนสิริเข้าไปศึกษาไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านในโครงการลักษณะนี้อย่างลึกซึ้งก็พบว่า การโดยสารด้วยรถยนต์หรือจักรยานยังมีความจำเป็นกับกลุ่มคนเหล่านี้ในบางโอกาส อาทิ การไปซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านอาหาร      ที่แม้จะใกล้ ๆ แต่ก็ไม่สะดวกหิ้วจำนวนมากขึ้นรถสาธารณะหรือการไปในพื้นที่ที่ไกลจากขนส่งสาธารณะ ซึ่งทำให้กลุ่มคนเหล่านี้ต้องใช้รถแท็กซี่หรือระบบเรียกรถต่างๆ  ดังนั้นแสนสิริเกิดแนวคิดในการผนวกบริการ Car Sharing เข้ามาอยู่ในโครงการของเรา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของโครงการที่อยู่อาศัยในประเทศไทยที่จะเข้าตอบโจทย์ Pain Point นี้เพื่อที่จะทำให้เราสามารถเติมเต็มการใช้ชีวิตในทุก ๆ ด้านให้ลูกบ้านมีประสบการณ์การอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบตามแนวคิด Complete your living experience ที่แสนสิริให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเรามั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกบ้านในปัจจุบันและกลุ่มเป้าหมายของโครงการในอนาคต เพราะ Car Sharing นับว่าเป็นเทรนด์ที่ได้รับนิยมอย่างสูงและประสบความสำเร็จในต่างประเทศเป็นอย่างมาก โดยมีการคาดการณ์ว่าปัจจุบันมีผู้ใช้บริการ Car Sharing ถึง 5-6 ล้านคนจากทั่วโลกและมีแนวโน้มที่จะเติบโตอีก 4-5 เท่าภายในสิ้นทศวรรษนี้* เช่นเดียวกับเทรนด์รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่ทางแสนสิริเล็งเห็นความสำคัญมาตั้งแต่ปี 2016 โดยได้นำอุปกรณ์ชาร์ตไฟฟ้ามาติดตั้งให้บริการในทุกโครงการคอนโดมิเนียมของแสนสิริ”

“สำหรับการให้บริการ Car Sharing ของแสนสิริจะนำร่องที่โครงการ เดอะไลน์ จตุจักร-หมอชิต โดยเราเลือกรถยนต์ BMW i3 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ BMW ที่ถูกส่งออกขายอย่างเป็นทางการในเชิงพาณิชย์ จำนวน 2 คันมาให้บริการเช่าในโครงการ และเพื่อให้การบริหารจัดการระบบเช่ารถยนต์ส่วนกลางเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุดเราจึงได้จับมือกับพันธมิตรที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะคือ Haupcar (ฮอปคาร์) ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มและให้บริการคาร์แชร์ริ่งแรกของไทยที่มีประสบการณ์การให้บริการเช่ารถผ่านแอพลิเคชั่นบนมือถือตลอด 24 ชม. มาเป็นเวลากว่า 2 ปี และ SHARGE ผู้ให้บริการเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและมีประสบการณ์ด้านการขายและซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้ามาเป็นผู้บริหารหลัก  โดยระบบ Car Sharing ของแสนสิรินั้นได้อำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านด้วยระบบจองรถออนไลน์ได้ทันทีผ่าน Home Service Application และ Haupcar Application โดยจะมีการคิดค่าบริการจริงเป็นราย 30 นาที ให้บริการสูงสุดภายใน 1  วัน โดยจะให้บริการรอบแรกตั้งแต่ 05.00น. สิ้นสุดที่เวลา 02.00น. ในแต่ละวัน เพื่อให้มีเวลาชาร์ตไฟฟ้าอย่างน้อย 3 ชั่วโมงต่อวัน   เน้นการให้บริการในเขตบริเวณกรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อให้รถยนต์สามารถหมุนเวียนให้บริการลูกบ้านอย่างต่อเนื่อง โดยค่าบริการดังกล่าวได้รวมค่าพลังงานและประกันรถยนต์เรียบร้อย แล้วจึงจะไม่มีการเก็บค่าบริการตามระยะทางเพิ่มเติมอีก เบ็ดเสร็จเฉลี่ยจะราคาต่ำกว่าการเรียกรถผ่านแอพลิเคชั่นรถพร้อมคนขับที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน อีกทั้งยังมีความเป็นส่วนตัวและความยืดหยุ่นด้านการเลือกเส้นทางที่มากกว่า โดยหลังจากนี้เรามีแผนที่จะนำ Car Sharing ไปให้บริการในโครงการอื่น ๆ ที่มีกลุ่มเป้าหมายที่ใกล้เคียงกัน อาทิ โครงการเดอะ ไลน์ ราชเทวี, เอดจ์, ทากะ เฮาส์, คอมมูนิตี้มอลล์ฮาบิโตะใน T77  พร้อมทั้งเตรียมที่จะจับมือกับพันธมิตรระดับโลกอีกหลายบริษัทเพื่อให้บริการ Transportation Sharing ผ่านยานหนะในรูปแบบที่หลากหลายขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการเดินทางแบบ Sharing Economy ที่แตกต่างในอนาคต  

SHARGE กล่าวเสริมว่า “ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาเทรนด์การใช้รถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 50 เปอร์เซนต์ และบริษัทยานยนต์ชั้นนำทั่วโลกก็หันมาพัฒนาและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคนี้ที่มีการเปิดรับเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันอย่างรวดเร็วมากขึ้น ด้วยความที่ผมสนใจในเรื่องของรถยนต์มาตั้งแต่เด็ก จึงเห็นว่าเทรนด์นี้เป็นก้าวใหม่ของวงการยานยนต์ เมื่อได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรในระยะยาวกับแสนสิริ ซึงเป็นผู้นำอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่มุ่งพัฒนาและสรรหานวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยอย่างไม่หยุดนิ่ง จึงได้เริ่มนำเครื่อง EV Charger ที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับแสนสิริโดยเฉพาะมาติดตั้งในโครงการ โดยปัจจุบันมีอยู่ในสามโครงการ คือ โครงการ โมริ เฮาส์ โครงการ เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า และโครงการ เดอะไลน์ จตุจักร-หมอชิต และยังมีโครงการที่อยู่ในระหว่างพัฒนาของแสนสิริอีกกว่าสิบโครงการ เพราะในอนาคตผมเชื่อว่าอัตราการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน”

Haupcar กล่าวว่า “เห็นได้ว่าไลฟ์สไตล์คนเมืองในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ แต่จะมีบางโอกาสที่พวกเขาต้องใช้รถเพื่อความเป็นส่วนตัวหรือเดินทางในระยะใกล้ ซึ่งเป็นการใช้รถในช่วงเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่ชั่วโมง ดังนั้น Car Sharing จึงเป็นทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์การใช้งานในลักษณะนี้ เทรนด์ของ Car Sharing กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฮ่องกง สิงคโปร์ ไปจนถึงประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างมาเลเซีย ซึ่งทาง Haupcar จะเน้นการใช้รถประหยัดพลังงานสำหรับ Car Sharing เป็นหลัก นำร่องที่โครงการเดอะไลน์ จตุจักร-หมอชิต ซึ่งความพิเศษของการร่วมกับแสนสิริในครั้งนี้คือ เป็นครั้งแรกที่มีการนำเอารถยนต์พลังงานไฟฟ้า BMW i3 จำนวน 2 คัน มาให้บริการแก่ผู้อยู่อาศัยในโครงการคอนโดมิเนียม โดยสามารถจองใช้รถผ่าน Home Service Application ซึ่งจะเชื่อมโยงข้อมูลไปยัง Haupcar Application โดยอัตโนมัติ และมีการคิดค่าบริการจริงตามนาที ซึ่งหลังจากนี้มีแผนที่จะนำไปให้บริการในโครงการอื่นๆ ของแสนสิริในอนาคต”

*ที่มา: http://fortune.com/2016/01/21/gm-car-sharing-maven/