ข่าวสารและสื่อ

อัปเดตข่าวสารจากสื่อหลากหลายช่องทาง ล่าสุดได้ที่นี่

แสนสิริ อันดับ 1 รายได้-เงินปันผล ส่งสัญญาณแกร่ง Q1/25 ยอดขายพุ่ง 15,000 ล้านบาท

แรงหนุน PTY Sold Out ทันทีวันพรีเซล ตอกย้ำแบรนด์แข็งแกร่ง 
  • แสนสิริ รักษาโมเมนตัมจากปี 67 แชมป์อันดับ 1 รายได้และเงินปันผล เผยยอดขายไตรมาสแรก 
    พุ่งทะลุ 15,000 ล้านบาท เติบโต 25% YoY ท่ามกลางความท้าทายของตลาดที่ผันผวน   
  • ประเดิมต้นปี คอนโดพัทยา PTY Residence Sai 1 Sold Out! ด้วยยอดขายถึง 3,300 ล้านบาท 
    ทันทีวันพรีเซล ตอกย้ำผู้นำอสังหาฯ
  • กลยุทธ์รัดกุม เน้นกลุ่มเรียลดีมานด์ ไม่สร้างยอดขายเทียม พร้อม Backlog รอรับรู้รายได้ 20,000 ล้านบาท 
  • มั่นใจมาตรการรัฐ หนุนตลาดอสังหาฯ ลุยต่อไตรมาส 2 เปิด 7 โครงการ มูลค่า 15,200 ล้านบาท    
 
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI คงความเป็นผู้นำอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศ ด้วยผลงาน โดดเด่นรักษาโมเมนตัมผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากปี 2567 อันดับ 1 รายได้และเงินปันผล ส่งผลให้ ไตรมาสแรกปี 2568 บริษัทสร้างยอดขาย (Presale) ได้ถึง 15,000 ล้านบาท (แนวราบ 6,000 ล้านบาท, คอนโดมิเนียม 9,000 ล้านบาท) เติบโตสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ คิดเป็น 28% จากเป้ายอดขาย 53,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ท่ามกลางแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจ  ความสำเร็จนี้มาจากโครงการพีทีวาย เรสซิเดนซ์ สาย 1 (PTY Residence Sai 1) แฟลกชิพคอนโดมิเนียม ริมหาดพัทยา ด้วยยอดขายสูงถึง 3,300 ล้านบาท กับการจองที่ร้อนแรงที่สุดแห่งปี ดีมานด์ล้น Sold Out ทันทีภายใน 3 ชั่วโมงที่เปิดพรีเซล (29 มี.ค.) สะท้อนความเชื่อมั่นในแบรนด์และบริการหลังการขายที่ใส่ใจ ไม่มีวันสิ้นสุด คือกุญแจสำคัญที่ทำให้ลูกค้ายังคงมอบความไว้วางใจอย่างล้นหลาม ทั้งนี้ PTY Residence Sai 1 เป็นหนึ่งในผลงานมาสเตอร์พีชในรอบ 10 ปี บนถนนเลียบหาดพัทยาสาย 1 (พัทยากลาง) ของแสนสิริ เป็น Rare Item บนที่ดิน Freehold ผืนสุดท้ายที่หาไม่ได้อีกแล้ว  
ปัจจัยความสำเร็จถัดมาคือจากแผนกลยุทธ์ที่รัดกุมและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ โดยโฟกัสไปยังกลุ่มเรียลดีมานด์ และได้รับอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารก่อนการจอง ไม่สร้างยอดขายเทียม ทำให้แสนสิริ มีอัตราการยกเลิกสัญญา (Cancellation Rate) ต่ำสุดในตลาด พร้อม Backlog รอรับรู้รายได้อีกกว่า 20,000 ล้านบาท รวมถึง Take-up rate ที่โดดเด่นจากคอนโดมิเนียมที่อยู่ใน Tourism Destination อย่างภูเก็ต พัทยา และหัวหิน โดยภาพรวมไตรมาสแรกแสนสิริเปิด 10 โครงการใหม่ (แนวราบ 2, คอนโดมิเนียม 8) มูลค่ารวม 14,000 ล้านบาท  
หากเจาะลึกความสำเร็จไตรมาสแรก จะมาจากสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียมที่ได้รับการตอบรับที่ดี มี Take-up rate สูง จากโครงการที่มีดีมานด์ของต่างชาติจากเมืองท่องเที่ยว ได้แก่ เดอะ เบส เชิงทะเล ภูเก็ต, PTY Residence Sai 1 พัทยา, กาบานาส หัวหิน รวมถึงกลุ่มสินค้าพร้อมเข้าอยู่ (RTM) อย่างเวย์ โพธิสาร 2 และ เดอะมูฟ ประดิพัทธ์ สะท้อนดีมานด์คอนโด RTM ยังเป็นที่ต้องการอย่างมาก 
สำหรับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมา มองว่าส่งผลกระทบเพียงชั่วคราวเท่านั้น ด้วยมาตรฐานการก่อสร้างอาคารสูงในไทยที่แข็งแกร่ง ทำให้สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้จะเปลี่ยนมุมมองผู้บริโภคใหม่โดยหันมาให้ความสำคัญกับแบรนด์คุณภาพ ทั้งในด้านมาตรฐานความปลอดภัยของโครงการ และบริการหลังการขาย    
ส่วนปัจจัยบวก พบดีมานด์ในกลุ่มแนวราบเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว และครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ อาทิ  สิริ เพลส, อณาสิริ, เศรษฐสิริ และณริณสิริ อย่างไรก็ตาม ตามสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน แสนสิริเดินหน้าตามแผนควบคู่การประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยคาดว่าไตรมาส 2 จะเปิดตัว 7 โครงการ (แนวราบ 5, คอนโดมิเนียม 2) รวมมูลค่า 15,200 ล้านบาท 
ปัจจุบันกำลังก้าวเข้าสู่ยุค "Buyer's Market" โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญ อาทิ การผ่อนคลายมาตรการ?LTV?ชั่วคราว การลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนอง ประกอบการกับแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง ช่วยให้ผู้ซื้อบ้านเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น และผู้ประกอบการทุกค่ายแข่งขันด้วยแคมเปญดึงดูดใจ ทั้งส่วนลดและข้อเสนอฟรีค่าธรรมเนียมต่างๆ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ นอกจากนี้ยังมีทำเลศักยภาพใหม่ตามแนวรถไฟฟ้า ที่ยังมีราคาไม่สูงมาก แต่มีโอกาสเติบโตในอนาคต ขณะที่ผู้ประกอบการมุ่งเน้นการสร้างความเชื่อมั่นและพัฒนาคุณภาพโครงการ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตมากขึ้น 
ติดตามข้อมูลโครงการต่างๆ ของแสนสิริ ได้ที่ https://siri.ly/ghLIcYChttps://siri.ly/AzFho14      
ข้อมุลเพิ่มเติม 
  • มุมมองนักวิเคราะห์ความเชื่อมั่นจากนักลงทุน: บทวิเคราะห์จากบล.กรุงศรี และ บล. โกลเบล็ก (วันที่ 20, 26 มี.ค.) แนะนำ SIRI เป็น Top Pick ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ด้วยจุดเด่น Dividend Yield สูงสุดในกลุ่ม 9.4% (ประมาณการปี 2568) และความสามารถในการออกแบบผลิตภัณฑ์และจับเทรนด์ตลาด กลยุทธ์การสร้างมูลค่าเพิ่มในทำเลศักยภาพ
  • ไตรมาสแรก: Sold Out! รวด 7 โครงการ มูลค่า 6,400 ล้านบาท ได้แก่ พีทีวาย เรสซิเดนซ์ สาย 1, ดีคอนโด พนา, เวย์ โพธิสาร, คอนโดมี บางนา-บางบ่อ, อณาสิริ อยุธยา, เอลซ์ รามอินทรา 34 และเอลซ์ พระราม
  • ไตรมาส 2: เตรียมพบกับ นาราสิริ บางนา กม. 10 มูลค่า 4,100 ล้านบาท เริ่ม 60 – 150 ล้านบาท  
    โครงการระดับ Sansiri Luxury Collection หนึ่งเดียวบน Sansiri 10 East ลักซ์ชัวรีคอมมูนิตี้แห่งใหม่จาก 
    แสนสิริ รวมถึงไฮไลต์สำคัญ เวีย 34 (Via 34) มูลค่า 1,300 ล้านบาท Low Rise ลักซ์ชัวรีคอนโดมิเนียมบนสุดยอดทำเลที่ดีที่สุดใจกลางสุขุมวิท ใกล้ BTS ทองหล่อมากที่สุด เพียง 350 เมตร* สุดเอ็กซ์คลูซีฟเพียง 45 ครอบครัวที่จะได้ครอบครอง เตรียมเผยโฉมเร็ว ๆ นี้ และกลุ่มคอนโดมิเนียมพร้อมโอนในภูเก็ต อย่าง  
    ดอะ เบส ไรส์ พร้อมโอนเดือนเมษายน และเดอะ เบส บูกิต ที่พร้อมโอนในเดือนพฤษภาคมนี้    
  • ธุรกิจใหม่ ต้นแบบ Crafted by Sansiri บริการรับสร้างบ้านอย่างเต็มรูปแบบจากแสนสิริ หลังจากเปิดตัวเพียงไม่กี่วัน กวาดยอดจองไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท