ข่าวสารและสื่อ

อัปเดตข่าวสารจากสื่อหลากหลายช่องทาง ล่าสุดได้ที่นี่

“แสนสิริ” โชว์พอร์ตธุรกิจโรงแรม Standard International โตแกร่ง 128% ชี้ท่องเที่ยวทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว

  •  
  • แสนสิริ ผู้ถือหุ้นใหญ่ Standard International (สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล) บริษัทแม่ของเครือโรงแรม The Standard (เดอะ สแตนดาร์ด) แบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับโลกที่มีอิทธิพลที่สุดในธุรกิจไลฟ์สไตล์โฮเต็ล เผยสัญญาณท่องเที่ยวทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวจากหลายปัจจัยบวก อาทิ มาตรการผ่อนคลายแต่ละประเทศ ความเชื่อมั่นเริ่มฟื้นกลับ ยอดผู้รับวัคซีนสูงขึ้น และ วัคซีนที่ได้รับกระตุ้นมากกว่า 1 เข็ม
  • เผยรายได้พอร์ตธุรกิจโรงแรม Standard International ทั่วโลกปี’64 โตพุ่งกว่า 128%            ตั้งเป้าโต 48% สิ้นปีนี้ เชื่อมั่นโตก้าวกระโดดใน 3 ปี จาก 3 แบรนด์หัวหอก The Standard (เดอะ สแตนดาร์ด), Bunkhouse (บังค์เฮาส์) และ The Peri (เดอะ เภรี) จาก 2 รายได้หลัก ห้องพัก-อาหารและเครื่องดื่ม เอกลักษณ์สุดยูนีคที่ฉีกทุกกฏของโรงแรม  
  • เชื่อมั่นธุรกิจท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทยฟื้น รับตลาดท่องเที่ยวบูม รุกขยายธุรกิจใหม่เครือ ‘Bunkhouse’ (บังค์เฮาส์) กลุ่มบริหารธุรกิจโรงแรม เจาะ 6 หัวเมืองท่องเที่ยวชั้นนำโลก กรุงเทพ-พัทยา-เชียงใหม่-ภูเก็ต-บาหลี-ลอนดอน
  • ชูกลยุทธ์ 2 โมเดลธุรกิจโรงแรมใหม่ ภายใต้จุดแข็งผู้นำพัฒนาอสังหาฯ ‘The Saint Collection’ (เดอะ เซนท์ คอลเล็กชั่น) ลักซ์ชัวรี่ โฮเต็ล และ ‘By Bunkhouse’ (บาย 
บังค์เฮาส์) ธุรกิจโรงแรมแบบ Bespoke สร้างโรงแรม one-of-a-kind ที่ไม่เหมือนใครในแบบของคุณเอง 
  • เผย ‘เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน’ โรงแรมบีชฟร้อนท์แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้      ท็อปฟอร์ม ทำกำไรหลังจากเปิดตัวเพียง 4 เดือน ลูกค้าไทยแห่จองห้องพักล้นหลามถึง    สิ้นปี และ ล่าสุดโรงแรมแห่งเดียวใน SEA คว้ารางวัล 2022 Hot List จาก Condé Nast Traveller และ #1 best resort in Southeast Asia, #7 in Asia, #35 in the world จาก Travel+Leisure 
  • ขณะที่ ‘เดอะ เภรี โฮเต็ล หัวหิน-เขาใหญ่’ คาดรายได้โต 98% ในไตรมาส 3 ปีนี้
  • เตรียมรุกเปิดตัว เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร 29ก.ค. นี้ ภายใต้แบรนด์         เดอะ สแตนดาร์ด แห่งที่ 2 ในไทย 
 
เศรษฐา ทวีสิน ประธานกรรมการ Standard International (สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล) บริษัทแม่ของเครือโรงแรม The Standard (เดอะ สแตนดาร์ด) และ ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “โอกาสของธุรกิจท่องเที่ยวทั่วโลกกำลังกลับมาจากการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ จำนวนผู้รับวัคซีนและผู้ได้รับเข็มกระตุ้นสูงขึ้น นโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ทำให้แนวโน้มความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวเริ่มฟื้นกลับ โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐอเมริกาและยุโรป เติบโตสูงขึ้นกว่าช่วงก่อนเกิดสถานการณ์ ส่งผลให้ สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล ที่มีแสนสิริ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 62% สามารถสร้างรายได้จากพอร์ตลงทุนธุรกิจโรงแรมไลฟ์สไตล์ระดับโลก เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงเวลาที่ท้าทายถึง 128% ในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้             ยังสามารถขยายฐานธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง เปิดตัวโรงแรมใหม่ทั่วโลกในเมืองท่องเที่ยวหลัก และล่าสุดกับ เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร ที่เตรียมเปิดให้บริการเร็วๆนี้” 
 
“คาดว่าในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ธุรกิจการท่องเที่ยวทั่วโลกจากไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปอย่าง กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีงบประมาณท่องเที่ยวแบบลักซ์ชัวรี่ ต้องการประสบการณ์ที่แตกต่าง และอีกกลุ่ม ที่มีงบประมาณไม่มากแต่ยังต้องการไลฟ์สไตล์ในการท่องเที่ยว มีแนวโน้มเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น ประกอบกับต้นทุนการพัฒนาโรงแรมที่ใช้งบไม่สูงมาก จึงทำให้สามารถขยายโรงแรมไปยังหัวเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงในไทยจะขยายตัวเติบโตสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและธุรกิจท่องเที่ยวต่างๆของรัฐบาล อาทิ  
เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อเนื่อง ยกเลิก Thailand pass การเปิดรับ Long-term Resident visa (LTR)            การผ่อนคลายมาตรการโควิด จำนวนผู้ได้รับฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพิ่มขึ้น จากปัจจัยเหล่านี้ แสนสิริ จึงรุกตลาดนำ            2 โมเดลธุรกิจเครือ ‘Bunkhouse’ (บังค์เฮาส์) กลุ่มบริหารธุรกิจโรงแรม ภายใต้การลงทุนของ Standard  
 
International เจาะกลุ่มตลาดทั้งท่องเที่ยวลักซ์ชัวรี่ นักเดินทางที่แสวงหาประสบการณ์การเดินทางแบบมีสไตล์ และนักลงทุนพัฒนาโรงแรม ผสานกับจุดแข็งของแสนสิริ ด้านผู้พัฒนาอสังหาฯชั้นนำของประเทศ เพื่อรองรับตลาดท่องเที่ยวที่คาดเติบโตสูงขึ้น มั่นใจว่า การเปิดตัวของ Bunkhouse จะสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักเดินทางรุ่นใหม่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้อย่างดีเช่นเดียวกับ โรงแรม The Standard ดึงดูดเม็ดเงินรายได้มหาศาลให้แก่ประเทศ เพราะการท่องเที่ยว ขับเคลื่อน GDP หลักของประเทศ และเศรษฐกิจไทย (Multiplier effect) จากการ     จ้างงานพนักงานโรงแรมและธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้อง“ เศรษฐา กล่าวเสริม 
 
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจโรงแรม The Standard เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งแม้ในสถานการณ์โลกที่ท้าทายและผลกระทบเศรษฐกิจ โดยปัจจุบันมีโรงแรม 7 แห่ง ทั่วโลก ได้แก่ ไมอามี่, นิวยอร์ก, ลอนดอน, มัลดีฟ, อิบิซ่า และ       หัวหิน ในประเทศไทย ที่แสนสิริลงทุนเอง 100% ด้วยเม็ดเงินกว่า 800 ล้านบาท ล่าสุดในปีนี้ เปิดให้บริการไปแล้วในยุโรป อิบิซา เมืองตากอากาศชั้นนำในสเปน และ เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร ที่พร้อมเปิดบริการ 29 กรกฏาคมนี้ สื่อชั้นนำทั่วโลกต่างยกให้ The Standard, Ibiza เป็นโรงแรมที่ sexy ที่สุดในยุโรป โดยเราเชื่อว่า เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร แลนด์มาร์กแฟล็กชิปของเอเชีย ใจกลางกรุงเทพฯ ของ The Standard จะสร้างปรากฎการณ์ที่ทั่วโลกต่างต้องจับจ้องไม่ใช่แค่เพียงเฉพาะในไทย  
 
นอกจากนี้ Standard International เผยรายได้จากการท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อน การจัดงาน และการท่องเที่ยว        แบบกลุ่มองค์กรเติบโตสูงขึ้น โดยขยายระยะเวลาเข้าพักนานขึ้นจาก 2.5 วัน เป็น 4 วัน และใช้เวลาพักผ่อนไปกับ   ไลฟ์สไตล์ในโรงแรมมากขึ้น จากอาหารและเครื่องดื่ม โดยสัดส่วนหลักของรายได้มาจากโรงแรมในตลาดสหรัฐอเมริกา ที่ท็อปฟอร์มสร้างรายได้เติบโตจากอัตราราคาห้องพัก (ADR) ที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าช่วงก่อนสถานการณ์โควิด ขณะที่ ประเทศอื่นๆ สร้างรายได้เพิ่มสูงขึ้นในทุกเดือนตั้งแต่เปิดตัว อาทิ The Standard, Ibiza มียอดจองห้องพักเต็มภายใน 3 เดือน The Standard, Bangkok Mahanakhon มีคิวรอจองร้านอาหาร Ojo (โอโฮ) นานถึง 1 เดือน รวมถึงยอดจองห้องพักโรงแรมอย่างต่อเนื่อง 
 
บริพัตร หลุยเจริญ Managing Director, Standard Asia Co.,Ltd. กล่าวว่า “เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน โรงแรม    แห่งแรกในเมืองไทยและรีสอร์ตติดชายหาดแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประสบความสำเร็จอย่างมาก ได้รับการตอบรับล้นหลามจากทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ จากอัตราการเข้าพัก (occupancy rate) ที่สูงถึง 80% ภายในเดือนแรกที่เปิดตัว และมียอดจองห้องพักเต็มต่อเนื่องเกือบทุกสุดสัปดาห์ ด้วยจุดเด่นเหนือคู่แข่ง                 ด้านกิจกรรมไลฟ์สไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ ตั้งแต่ดนตรี จนถึงงานอาร์ต ล่าสุด คว้ารางวัล 2022 Hot List จาก Condé Nast Traveller โรงแรมแห่งเดียวใน SEA และ #1 best resort in Southeast Asia, #7 in Asia, #35 in the world จากนิตยสาร Travel+Leisure” 
 
“สำหรับแผนการขยายธุรกิจ เราเตรียมเปิด The Peri Hotel (เดอะ เภรี โฮเต็ล) แฟล็กชิปใจกลางกรุงเทพภายใน      3 ปีนี้ รวมถึง Bunkhouse วางกลยุทธ์หลักเปิดในเมืองท่องเที่ยวหลักของไทย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้” บริพัตร กล่าว 
# # # 
เกี่ยวกับ Bunkhouse 
เครือ ‘Bunkhouse’ (บังค์เฮาส์) กลุ่มบริหารธุรกิจโรงแรม ภายใต้ Standard International ที่มุ่งสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้กับการเดินทางท่ามกลางคอมมูนิตี้โดยรอบ สะท้อนผ่าน 3 จุดเด่นด้านงานดีไซน์ ความใส่ใจในรายละเอียด และการสร้างวัฒนธรรมที่จริงใจ ตลอดจนชุมชนโดยรอบ ปัจจุบัน โรงแรมภายใต้ธุรกิจ Bunkhouse มีทั้งหมด 9 แห่งในสหรัฐอเมริกา ได้แก่ Austin Hotel, Carpenter Hotel, Hotel Magdalena, Shady Villa Hotel, Hotel San Jose, Hotel Saint Cecilia, Hotel Havana, Hotel San Cristobal Baja และ Phoenix Hotel และเตรียมเปิดตัวอีก 3 แห่ง ได้แก่ Hotel San Fernando ในเม็กซิโก ในปลายไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 นี้ และ Hotel Genevieve ใน Kentucky ปี 2566 และ  Hotel Saint Augustine ในเท็กซัส ช่วงปลายปี 2566 หรือต้นปี 2567  
 
เกี่ยวกับ The Standard Hotel 
ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2542  และเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากการสร้างสรรค์รสนิยมล้ำสมัย ดีไซน์แปลกใหม่ และมาตรฐานทีไม่เหมือนใคร โดยปัจจุบันได้สร้างสรรค์โรงแรมทีฉีกกรอบรูปแบบเดิมๆ มาแล้ว 7 แห่งใน นิวยอร์ก ไมอามี ลอนดอน มัลดีฟส์ อิบิซ่า และ The Standard, Hua Hin โรงแรมแห่งแรกในเมืองไทยและเป็นรีสอร์ตติดชายหาดแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมไปถึงแฟลกชิปในเอเชีย The Standard, Bangkok Mahimahi ที่พร้อมเปิดให้บริการในวันที่ 29 กรกฎาคม 2565 นี้ นอกจากนี้ โรงแรม The Standard ที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา ได้แก่ Lisbon, Milan, Melbourne, Singapore, Dublin and Brussels เป้าหมายในการสร้างสรรค์และพัฒนาทุกโครงการของ The Standard  ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รูฟท็อปดิสโก้ เธค หรือนิตยสาร คือ การฉีกกฎเกณฑ์ รวมถึงการนําเสนอประสบการณ์ที่ หาได้ที่ The Standard  เท่านั้น ด้วยบุคลิกของความสนุกสนาน ขี้เล่น รวมถึงการให้ความสําคัญในทุกรายละเอียดอย่างพิถีพิถันไม่ว่าจะเป็น การออกแบบ และการบริการ ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับ The Standard  ในฐานะผู้บุกเบิกในธุรกิจโรงแรมที่เป็นเอกลักษณ์ทั้งในด้านของห้องพัก การท่องเที่ยว อาหาร ไนท์ไลฟ์ และอื่น ๆ อีกมากมาย Standard International ยังได้ถือหุ้นใน Bunkhouse Group และ The Peri hotel โดยปัจจุบัน มีบริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนําของประเทศไทย เป็นผู้ถือหุ้นหลักจากการลงทุนใน Standard International ครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2560  ก่อนจะมีการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในเวลาต่อมา