ข่าวสารและสื่อ

อัปเดตข่าวสารจากสื่อหลากหลายช่องทาง ล่าสุดได้ที่นี่

Miquel Barcelo (มิเกล บาร์เซโล) บรรเลงศิลปะภาพวาดมีชีวิต สะท้อนสัจธรรม

“แสนสิริ” พาคุณเข้าสู่ประสบการณ์งานศิลปะระดับเวิลด์คลาสที่หาชมได้ยากยิ่ง กับการแสดงผลงานศิลปะแสดงสดร่วมสมัย (Live Art Performance) โดย “มิเกล บาร์เซโล” (Miquel Barceló) ศิลปินระดับโลกจากสเปนหลังจากที่ตระเวนจัดแสดงงานตามแลนด์มาร์กจุดสำคัญทั่วโลกเท่านั้น และนี่คือครั้งแรกของเขากับการแสดงงานในประเทศไทย โดยร่วมกับแสนสิริจัดแสดงงานแบบสดๆกับภาพวาดที่มีชีวิตต่อหน้าผู้ชมในใจกลางแม่น้ำเจ้าพระยา แลนด์มาร์กของประเทศไทยในงาน “Sansiri presents Miquel Barceló : DESPINTURA FÒNICA” ด้วยคอนเซ็ปต์ “Live Painting Experiment with Music” เทคนิคการเพ้นต์ภาพแบบสดๆ บนผืนผ้าแคนวาสผลิตพิเศษขนาดยาวกว่า 20 เมตร ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่เขาเคยจัดแสดงงานมา ด้วยน้ำหมึกพิเศษที่ปรากฏสีขึ้นจากการสัมผัสบนเท็กซ์เจอร์ของผ้า  การสะบัดฝีแปรง และภาพวาดที่ปรับเปลี่ยนได้และเลือนหายไปสู่ความว่างเปล่า บนสตูดิโอกลางแจ้งที่ล่องตามสายแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมทัศนียภาพอันงดงามที่รายรอบตลอดสองฟากฝั่ง นอกจากนี้คนในแวดวงอาร์ตหรือผู้ที่สนใจงานศิลปะยังได้กระทบไหล่กับ โจดี้ ลิน โอคีฟ (Jodi Lyn OKeefe) นักแสดงหญิงชั้นนำจากอเมริกากับบทบาทใน Prison Break และ The Vampire Diaries ที่บินตรงมาร่วมงานนี้แบบใกล้ชิด ดื่มด่ำกับบรรยากาศ  การแสดงไวโอลินโดย อายูมิ พอล (Ayumi Paul) นักไวโอลินระดับเวิล์ดคลาสและโจคิม   บาร์เซโล (Joaquim Barceló)  พร้อมทั้งยังได้ชมนิทรรศการเกี่ยวกับศิลปินและผลงานของเขาทั่วโลกได้ที่ท่าเรือธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย ซึ่งเป็นธนาคารแห่งแรกของประเทศไทยอีกด้วย
 
Miquel Barceló เป็นชาว Catalan (แคว้นปกครองอิสระในประเทศสเปน) เกิดเมื่อปี 1957 ที่ Felanitx บนเกาะ Mallorca เกาะในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศสเปน โดยได้รับสายเลือดศิลปินแบบเต็มๆมาจากแม่ที่เป็น     จิตรกรวาดงานแลนด์สเคปแบบดั้งเดิมของท้องถิ่น จุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้เขาหลงใหลในงานเพ้นต์ภาพแบบอะวองการ์ด คือ การเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรกไปยังปารีส ที่นั่นเขาได้พบกับผลงานภาพเขียนจากจิตใต้สำนึกแนวดิบๆ ของ Jean Dubuffet - Art Brut และ Art Informel ซึ่งทำให้เขามุ่งหน้าสู่เส้นทางศิลปะอย่างจริงจังด้วยการเข้าเรียนที่ Decorative Arts School ใน Palma de Mallorca และ The School of Fine Arts ในบาร์เซโลนา ในช่วงปี 1975
 
เขาได้รับการขนานนามให้เป็นหนึ่งในศิลปินชั้นแนวหน้าของสเปนจากการที่ได้เป็นตัวแทนของสเปนในการจัดแสดงนิทรรศการ Documenta 7 ใน Kassel ประเทศเยอรมันในช่วงปี 1982 ซึ่งเป็นงานแสดงศิลปะที่สำคัญที่สุดงานหนึ่งของศิลปะสมัยใหม่และศิลปะร่วมสมัยจัดขึ้นทุกๆ ห้าปี ซึ่งตลอดช่วงนั้นนับได้ว่าเขาคือ ส่วนหนึ่งของขบวนการ Neo-Expressionist และได้เดินสายแสดงงานในหลากหลายประเทศ
 
ภาพวาดของเขาถูกขยายออกจากสเกลที่เพียงแค่อยู่บนผืนผ้าใบหรือกระดาษ สู่อาคาร สถานที่ และเทศกาลต่างๆ ในสเกลใหญ่แบบโอเวอร์ไซส์ ตัวอย่างเช่น งานศิลปะในองค์การสหประชาชาติในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งประกอบด้วยงานประติมากรรมขนาดยักษ์ที่ติดตั้งในฝ้าโดมภายในห้องประชุมบนพื้นที่ 1,500 ตารางเมตร ราวกับเป็นหินย้อยหลากสีที่หยดลงมาจากฝ้าเพดาน ซึ่งต้องใช้สีถึง 100 ตันเพื่อสร้างผลงานชิ้นนี้ พ่นด้วยสีเทาอมฟ้า ซึ่งช่วยสร้างมุมมองรูปแบบใหม่ และในบางมุม ท้องฟ้านี้ก็เป็นฉากหลังให้กับงานอินสตอลเลชั่นที่ฉาบแสงสีรุ้งออกมา ผลงานทั้งหมดแสดงถึงมุมมองต่อประเด็นบนพื้นที่การประชุมของ UN ซึ่งสื่อถือการที่ควรพิจารณาจากหลายๆ มุมมองที่แตกต่างกัน ผลงานชิ้นนี้ของเขามีมูลค่ากว่า 23 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 800 ล้านบาท)

 
อีกหนึ่งผลงานประติมากรรมขนาดยักษ์ของมิเกล บาร์เซโล ในองค์การสหประชาชาติที่นครเจนีวา
เครดิตภาพ : CEILING OF THE HUMAN RIGHTS AND ALLIANCE OF CIVILIZATIONS ROOM - UNITED NATIONS GENEVA, 2008 © Agustí Torres, 2008
 
ปัจจุบัน Barceló ยังคงตระเวนจัดแสดงผลงานกลุ่มและเดี่ยวในพิพิธภัณฑ์และเทศกาลต่างๆ ทั่วโลกอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะพื้นที่แลนด์มาร์กสำคัญๆ ของโลก ผลงานของเขายังถูกรวมอยู่ในหอศิลป์ระดับโลกที่มีชื่อเสียงมากที่สุด   เช่น Galerie Bruno Bischofberger และ Leo Castelli รวมทั้งภาพวาดของเขาที่ถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ลูฟว์ในกรุงปารีสเมื่อปี 2004 นับว่าเป็นศิลปินอายุน้อยที่สุดที่ได้จัดแสดงงานที่นี่ มิเกล บาร์เซโล ยังถือว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดศิลปินของโลกที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยได้รับเกียรติไปแสดงผลงาน ณ ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมเซนเตอร์ปอมปิดู (Center Pompidou) กรุงปารีส ในปี 1996
 
หลังจากที่มิเกล บาร์เซโลได้ไปจัดแสดงผลงานที่ Nijo Castle เมืองเกียวโตประเทศญี่ปุ่นแล้ว เป็นโอกาสดีที่แสนสิริได้เชิญเขามาโชว์งานศิลป์ระดับโลกมาจัดแสดงเป็นครั้งแรกบนน่านน้ำเจ้าพระยา โดยมีวัดอรุณฯ เป็นฉากหลังอันสง่างาม ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กของประเทศไทย ซึ่งความพิเศษอยู่ที่เป็นงานเพ้นต์ภาพที่มีชีวิตแบบเพอร์ฟอร์แมนซ์อาร์ตบนผืนผ้าแคนวาสผลิตพิเศษขนาดยาวกว่า 20 เมตร ต่อหน้าผู้ชม ด้วยเทคนิคน้ำหมึกพิเศษที่ปรากฏสีขึ้นจากการสัมผัสบนเท็กซ์เจอร์ของผ้าเส้นสายที่ค่อยๆเกิดขึ้นจากเทคนิคเฉพาะตัวศิลปินที่สะบัดฝีแปรงจากอุปกรณ์การเพ้นท์หลากหลายรูปทรง ภาพวาดจะปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามจินตนาการของศิลปิน และสภาพอากาศขณะแสดงไม่ว่าจะเป็นแสงแดด สายลม ที่จะทำให้มุมมองของภาพเปลี่ยน ทำให้ผู้ชมได้รู้สึกเดินทางร่วมไปกับจินตนาการของศิลปินแบบเต็มๆ และเมื่อจบการแสดงภาพทั้งหมดก็จะเลือนหายไป สะท้อนให้เห็นถึงสัจธรรมของทุกสิ่งที่เริ่มต้นจากความเรียบง่ายและกลับคืนไปสู่ความเรียบง่ายว่างเปล่าเหมือนเช่นเดิม เพื่อให้ผู้ชมทุกคนกลับไปพร้อมกับความทรงจำที่ดี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในคอนเซ็ปต์ของการแสดงงานด้วยเทคนิคที่โดดเด่นเฉพาะตัวและไม่เหมือนใคร

 
Sansiri presents Miquel Barceló : DESPINTURA FÒNICA จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน โดยรอบวันที่ 1 พฤศจิกายน สำหรับคนในแวดวงอาร์ตหรือผู้ที่สนใจงานศิลปะได้ขึ้นชมงานแสดงบนเรือ และรอบวันที่ 2 พฤศจิกายน เป็นรอบพิเศษสื่อมวลชนและ VIP เท่านั้น โดยเริ่มออกจากท่าเรือธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อยเวลา 15.30 น. และกลับถึงท่าเรือเวลา 16.30 น. รวมทั้งสามารถชมนิทรรศการเกี่ยวกับศิลปินและผลงานของเขาทั่วโลกได้ที่ท่าเรือธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย
 
อู้ พหลโยธิน ประธานผู้บริหารฝ่ายสร้างสรรค์ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แสนสิริ ต้องการให้คนไทยทุกกลุ่มได้รับเข้าถึงงานศิลป์ไม่ว่าจากศิลปินของไทยหรือแม้กระทั่งศิลปินระดับโลก ซึ่งทางแสนสิริให้ความสำคัญกับเรื่องศิลปะและดีไซน์มาโดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากสิ่งเหล่านี้สอดแทรกอยู่ล้อมรอบในชีวิตประจำวันของเรา แม้แต่ในธุรกิจของอสังหาริมทรัพย์เอง ซึ่งคอนเซ็ปท์ของโชว์คือที่ต้องการให้ทุกคนได้ดื่มด่ำไปกับงานศิลป์ตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปจนถึงจุดสิ้นสุดของผลงานแทนที่จะวางผลงานในพิพิธภัณฑ์ที่คนดูจะทำได้เพียงยืนชื่นชมผลงาน 1-2 นาที เท่านั้น พร้อมทั้งต้องการสะท้อนให้เห็นถึงแก่นของโชว์ที่คนไทยทุกเพศทุกวัยน่าจะเข้าใจได้ง่าย เนื่องจากสอดคล้องกับหลักคำสอนในพุทธศาสนากับคำว่าสัจจะธรรม ที่พูดถึงการเกิด แก่ เจ็บและตาย การเกิดที่ศูนย์และจบที่ศูนย์ ซึ่งเราน่าจะคุ้ยเคยกันดีจากฝั่งของศาสนา ลองเปลี่ยนเรียนรู้คำว่า สัจจะธรรม ใหม่อีกครั้งในฝั่งของศิลปะบ้าง ก็สามารถสะท้อนแง่คิดที่จรรโลงใจได้เช่นกัน”