นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ในวันที่ 1-3 กุมภาพันธ์ 2555 นี้ บริษัทฯ ได้ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด เตรียมเดินทางไปประเทศฮ่องกงและสิงคโปร์ เพื่อนำเสนอข้อมูลของบริษัทฯ (โรดโชว์) ให้กับนักลงทุนต่างประเทศที่สนใจเพื่อรับฟัง ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากราคาหุ้นของบริษัทฯ ในช่วงที่ผ่านมามีการปรับตัวขึ้นและได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก รวมทั้งจากการโรดโชว์ในปีที่ผ่านมา ก็ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในหุ้นสิริมากขึ้นเช่นเดียวกัน โดยปัจจุบันมีสัดส่วนนักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามาถือหุ้นอยู่ที่ 24 % จากสัดส่วนที่นักลงทุนต่างชาติสามารถถือหุ้นได้ 39 %
ขณะเดียวกัน การนำเสนอข้อมูลกับนักลงทุนสถาบันในประเทศ ประมาณ 20 กองทุน ในช่วงเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน เนื่องจากนักลงทุนหันมาสนใจหุ้นของบริษัทฯ จากราคาหุ้นยังเทรดที่ PE ค่อนข้างต่ำ และจากการคาดการณ์ผลประกอบการปี 2554-2555 ที่น่าจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงความมั่นใจในตัวบริษัท ที่สามารถผ่านพ้นวิกฤตน้ำท่วมมาได้อย่างรวดเร็ว และได้รับผลกระทบน้อยมาก นอกจากนี้จากแผนการขยายตัวในปี 2555 ยิ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้นักลงทุนสนใจในหุ้นบริษัทฯเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมแผนการดำเนินธุรกิจและการลงทุนในปี 2555 เพื่อไปให้ข้อมูลแก่นักลงทุน โดยจะเน้นในส่วนคาดการณ์การรายได้ที่ตั้งเป้าหมายไว้ 28,000 ล้านบาท ภายในปี 2555 ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโตที่ระดับ 40% เมื่อเทียบกับปี 2554 รวมถึงการเปิดตัวโครงการใหม่ของบริษัทฯ ทั้งหมด จำนวน 44 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 46,000 ล้านบาท และความพร้อมในการรุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในทุกระดับตลาด
“สำหรับการโรดโชว์ที่ประเทศสิงคโปร์และฮ่องกงในครั้งนี้ แสนสิริจะเน้นในเรื่องแผนการดำเนินธุรกิจ เป้าหมายรายได้และกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ และที่สำคัญคือการชูเรื่องความแตกต่างที่เหนือกว่าคู่แข่ง ซึ่งในปี 2555 บริษัทฯ จะรุกตลาดที่อยู่อาศัยครอบคลุมทุกเซ็กเม้นต์ ตั้งแต่ตลาดระดับบน (ไฮเอนด์) กลางและล่าง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงการเปิดโครงการใหม่ๆ ในทำเลหัวเมืองใหญ่ โดยมีมูลค่าโครงการรวมทั้งหมดกว่า 46,000 ล้านบาท และบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายยอดขาย (พรีเซล) อยู่ที่ 32,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปี 2554 ที่มียอดขายที่ 22,000 ล้านบาท และจากผลประกอบการดังกล่าวที่ตั้งไว้ คาดว่าการโรดโชว์ในครั้งนี้ จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างประเทศเป็นจำนวนมาก”นายเศรษฐา กล่าว
กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวต่อว่า นอกจากกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีนี้ที่แตกต่างและโดดเด่นเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วโรงงานผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูป (precast) ที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี บนเนื้อที่กว่า 45 ไร่ ใช้งบประมาณลงทุนกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือน มีนาคม 2555 นั้นจะยิ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจกับนักลงทุนมากขึ้น เนื่องจากการที่โรงงานดังกล่าวสามารถดำเนินการได้นั้นจะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถควบคุมต้นทุนการก่อสร้างได้ดีขึ้นและลดระยะเวลาการก่อสร้างได้สั้นลง มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้น และคาดว่าจะทำให้การทำกำไรของบริษัทฯเติบโตขึ้น โดยในไตรมาสแรกนี้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าสามารถสร้างยอดขายได้ที่ 10,000 ล้านบาท
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)