โดย Sansiri Editorial Team
อัปเดต :  11/12/2025
โดย Sansiri Editorial  
อัปเดต :  11/12/2025 โฮมแคร์
25 วิธีประหยัดไฟฟ้าช่วงหน้าร้อน ลดค่าไฟในบ้านแบบได้ผลจริง | แสนสิริ

การประหยัดค่าไฟเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยประหยัดงบประมาณในบ้านได้อย่างเห็นผล วันนี้แสนสิริจะมาแนะนำวิธีประหยัดไฟฟ้าหรือวิธีประหยัดพลังงาน 25 ข้อที่ทำได้ง่าย ๆ พร้อมวิธีคำนวณค่าไฟเบื้องต้นด้วยตัวเอง เพื่อที่ทุกคนจะสามารถวางแผนค่าใช้จ่าย และควบคุมการใช้พลังงานในบ้านได้อย่างชาญฉลาด นอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวอีกด้วย วันนี้แสนสิริขอแนะนำวิธีประหยัดพลังงาน 25 ข้องง่ายๆ ที่จะสามารถลดค่าไฟ และประหยัดค่าใช้จ่ายในบ้านของคุณได้อย่างมากเลยทีเดียว


Highlight



วิธีประหยัดไฟง่ายๆ เพียงแค่เปลี่ยน "พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน"


  1. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าและถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้

ปิด และถอดปลั๊กหลังใช้เครื่องไฟฟ้าเสร็จ ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าประมาณ 0.5 - 5 วัตต์ต่อชั่วโมงต่อเครื่อง เพราะการเสียบปลั๊กค้างไว้ กระแสไฟฟ้าจะยังคงไหลเวียนอยู่ ซึ่งวิธีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดไฟ แต่ยังช่วยป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าลัดวงจรอีกด้วย

วิธีประหยัดไฟฟ้าด้วยการปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าและถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้


  1. ไม่เสียบปลั๊กชาร์จโทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทิ้งไว้

ใครที่ชอบเสียบชาร์จโทรศัพท์ทิ้งไว้ ต้องหยุดพฤติกรรมนี้เลย เพราะการเสียบปลั๊กทิ้งไว้เป็นการกินไฟ และเสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร โดยเฉลี่ยอุปกรณ์แต่ละชิ้นกินไฟประมาณ 0.5 - 5 วัตต์ต่อชั่วโมง ซึ่งหากสะสมตลอดปี บ้านที่มีอุปกรณ์หลายชิ้นสามารถประหยัดไฟฟ้าได้ถึง 10 - 15% ของค่าไฟฟ้ารายปี ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยต่อตนเอง และช่วยประหยัดไฟภายในบ้าน ควรถอดปลั๊กออกทุกครั้งเมื่อแบตเตอรี่เต็มแล้ว

วิธีประหยัดไฟฟ้าด้วยการไม่เสียบปลั๊กชาร์จโทรศัพท์ทิ้งไว้


  1. เปิดม่านรับแสงธรรมชาติ

ใช้แสงธรรมชาติแทนการเปิดไฟ เป็นวิธีประหยัดไฟฟ้าที่หลายบ้านคงทำกันอยู่แล้ว ซึ่งทำให้ลดการใช้ไฟฟ้าของหลอดไฟได้ประมาณ 30 - 60% ต่อวัน ขึ้นอยู่กับขนาดและจำนวนหลอดไฟในห้อง เพียงแค่เปิดม่านรับแสงธรรมชาติให้ส่องเข้ามาในบ้าน นอกจากจะประหยัดพลังงานแล้ว ยังช่วยให้บ้านมีบรรยากาศอบอุ่น อารมณ์แจ่มใสและรู้สึกสดชื่นมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

วิธีประหยัดไฟฟ้าด้วยการใช้แสงธรรมชาติ


  1. เปิดหน้าต่างรับแสงธรรมชาติ

การเปิดหน้าต่างรับลมธรรมชาติ เป็นวิธีประหยัดไฟฟ้าแสนง่าย และได้ผลดี ทำให้ลดการใช้ไฟฟ้าได้ประมาณ 10–20% ต่อวัน เพราะการเปิดหน้าต่างช่วยระบายความร้อนภายในบ้าน ทำให้อากาศภายในบ้านเย็นสบาย มีหลักการง่าย ๆ ในการสร้างลมไหลเวียนภายในบ้าน โดยให้ลมเข้าทางช่องที่อยู่ต่ำกว่า และออกทางช่องที่อยู่สูงกว่า ลมเย็นจะเข้ามาทางด้านล่าง และอากาศร้อนที่ลอยตัวสูงขึ้นจะถูกดันออกไปทางช่องลมด้านบน เกิดการหมุนเวียนลมภายในบ้านที่ทำให้เรารู้สึกเย็นสบาย นอกจากนี้ สำหรับใครที่ต้องการให้ลมธรรมชาติมีความเร็วลมที่แรงขึ้น ให้ลองปรับช่องลมเข้าให้เล็กกว่าช่องลมออก เคล็ดลับนี้จะช่วยเพิ่มแรงลมที่พัดเข้ามาในบ้าน เมื่อเราสามารถจัดการทิศทางลมให้ไหลเวียนได้อย่างเหมาะสม บ้านก็จะเย็นสบาย อากาศถ่ายเทได้ดี ลดความอับชื้น และช่วยให้เราประหยัดค่าไฟจากการใช้เครื่องปรับอากาศและพัดลมได้จริง

วิธีประหยัดไฟฟ้าด้วยการเปิดหน้าต่างรับแสงธรรมชาติ
  1. เปิดแอร์ในอุณหภูมิที่เหมาะสม

การตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ 25 - 28 องศาเซลเซียส จะช่วยประหยัดพลังงานได้ เพราะทุก 1 องศาเซลเซียสที่เราปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้น จะช่วยประหยัดไฟได้ถึง 10% ตัวอย่างเช่น หากปกติคุณตั้งแอร์ไว้ที่ 23 องศา การเปลี่ยนมาตั้งที่ 25 องศา จะช่วยประหยัดไฟได้ถึง 20% เลยทีเดียว นั่นเพราะยิ่งตั้งอุณหภูมิต่ำเท่าไหร่ คอมเพรสเซอร์แอร์ก็ยิ่งทำงานหนักขึ้น และกินไฟมากขึ้นนั่นเอง

วิธีประหยัดไฟฟ้าด้วยการเปิดแอร์ในอุณหภูมิที่เหมาะสม


  1. ไม่เปิดตู้เย็นบ่อย ๆ

ใครมีพฤติกรรมชอบเดินไปเปิดตู้เย็นบ่อย ๆ จะต้องหยุดโดยด่วน เพราะการเปิดตู้เย็นบ่อย ๆ จะทำให้ความเย็นภายในตู้เย็นรั่วไหล ค่าประมาณพบว่า การเปิดตู้เย็นบ่อยครั้งสามารถเพิ่มการใช้ไฟฟ้าได้ถึง 10 - 15% ต่อวัน ส่งผลให้คอมเพรสเซอร์ต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อรักษาอุณหภูมิ ควรคิดไว้ก่อนว่าต้องการหยิบอะไรจากตู้เย็น และเปิดเพียงครั้งเดียวเพื่อหยิบของทั้งหมดที่ต้องการ จะช่วยประหยัดไฟได้

วิธีประหยัดไฟฟ้าด้วยการไม่เปิดตู้เย็นบ่อย


  1. สวมเสื้อผ้าที่โปร่งสบาย

สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดีช่วยให้รู้สึกเย็นสบาย ลดความจำเป็นในการเปิดเครื่องปรับอากาศหรือพัดลมตลอดเวลา การปรับพฤติกรรมนี้สามารถ ลดการใช้เครื่องปรับอากาศได้ประมาณ 5 - 10% ต่อวัน นอกจากจะช่วยประหยัดไฟแล้ว ยังทำให้เรารู้สึกสบายตัว รู้สึกสดชื่นอีกด้วย

วิธีประหยัดไฟฟ้าด้วยการสวมเสื้อผ้าที่โปร่งสบาย


  1. รีดผ้าครั้งละมาก ๆ

รีดผ้าครั้งละมาก ๆ ช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าการรีดทีละน้อย เพราะเตารีดใช้พลังงานมากในการทำให้ร้อนในครั้งแรก การรีดเสื้อผ้าครั้งละหลาย ๆ ชุด จึงเป็นวิธีประหยัดไฟฟ้าได้ดีเลยทีเดียว อาจลองกำหนดว่า ในหนึ่งอาทิตย์จะรีดผ้ากี่ครั้ง โดยพิจารณาจากปริมาณเสื้อผ้าที่ใส่

วิธีประหยัดไฟฟ้าด้วยการรีดผ้าครั้งละมากๆ


  1. ตากผ้าด้วยแสงแดดแทนการใช้เครื่องอบผ้า

แม้ว่าปัจจุบันเทคโนโลยีเครื่องอบผ้าจะช่วยให้ผ้าแห้งเร็วทันใจ แต่ประเทศไทยโชคดีที่มีแสงแดดจัดแทบตลอดทั้งปี การนำผ้าไปตากแดดแทนการใช้เครื่องอบผ้าจึงเป็นวิธีประหยัดไฟที่ยอดเยี่ยมที่สุดอีกวิธีหนึ่ง เพราะเครื่องอบผ้าถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟสูง โดยเครื่องอบผ้าแบบมาตรฐานอาจกินไฟประมาณ 2–3 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง (kWh) ต่อรอบ การตากผ้าให้แห้งด้วยแสงแดดสามารถ ลดการใช้ไฟฟ้าได้ 100% การตากแดดธรรมชาติไม่เพียงแต่ช่วยลดค่าไฟลงได้ แต่ยังได้ประโยชน์จากรังสี UV ในแดดที่ช่วยฆ่าเชื้อโรค และยังทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมแดดอ่อน ๆ ซึ่งเป็นความหอมสะอาดที่เครื่องอบผ้าไม่สามารถให้ได้


  1. ใช้งานเครื่องทำน้ำอุ่นเท่าที่จำเป็นและปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม

ประเทศไทยมีอากาศร้อนชื้น การอาบน้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิปกติในวันที่อากาศร้อนจะช่วยให้รู้สึกสดชื่นและสบายตัว การใช้เครื่องทำน้ำอุ่นขนาด 3,000–4,500วัตต์ จะใช้ไฟประมาณ 3–4.5 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงต่อการอาบน้ำ 1 ครั้ง ถ้าหากปรับอุณหภูมิให้อยู่ที่ 40–45°C แทนการตั้งร้อนสุด จะช่วยลดการใช้ไฟได้ประมาณ 20–30% ต่อครั้ง

นอกจากนี้ การอาบน้ำอุ่นบ่อยเกินไปอาจทำให้ผิวแห้ง ระคายเคือง เพราะน้ำอุ่นจะชะล้างไขมันบนผิวหนังตามธรรมชาติออกไป ดังนั้นควรใช้เครื่องทำน้ำอุ่นเท่าที่จำเป็น อาจจะอาบน้ำอุ่นเฉพาะในวันที่อากาศเย็น หรือตั้งอุณหภูมิของเครื่องทำน้ำอุ่นให้เหมาะสม ไม่ร้อนจัดจนเกินไป และปิดเครื่องทันทีหลังใช้งาน

วิธีประหยัดไฟฟ้าด้วยการตั้งอุณหภูมิของเครื่องทำน้ำอุ่น


  1. ตั้งเวลาเปิด-ปิดแอร์

วิธีประหยัดไฟฟ้าที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ชีวิตเราอีกทางหนึ่ง คือ การตั้งเวลาเปิด - ปิดเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ โดยตั้งให้ปิดเร็วขึ้น 30 นาทีหรือ 1 ชั่วโมงก่อนออกจากห้องหรือตั้งเวลาปิดแอร์ก่อนตื่นนอน 30 นาที โดยเราจะไม่รู้สึกร้อน เพราะความเย็นจะยังคงอยู่ อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ช่วยประหยัดไฟได้มากถึง 10% แต่อย่างไรก็ตามอัตราในการประหยัดไฟนั้นขึ้นอยู่กับอุณหภูมิที่เราตั้งไว้ด้วย

วิธีประหยัดไฟฟ้าด้วยการตั้งเวลาเปิด - ปิดแอร์


  1. ปรับอุณหภูมิน้ำของเครื่องซักผ้าให้เหมาะสม

ปรับอุณหภูมิน้ำของเครื่องซักผ้าให้เหมาะสม เป็นวิธีประหยัดไฟฟ้าที่ดี เพราะการใช้น้ำอุ่นซักผ้าใช้พลังงานมากกว่าการใช้น้ำเย็น ควรเลือกใช้น้ำอุ่นหรือน้ำร้อนเฉพาะกับเสื้อผ้าที่ต้องการฆ่าเชื้อโรคก็เพียงพอ สำหรับเสื้อผ้าปกติใช้น้ำอุณหภูมิปกติก็เพียงพอแล้ว นอกจากจะช่วยถนอมเส้นใยของเสื้อผ้าแล้ว การตั้งอุณหภูมิของน้ำในการซักผ้าที่พอเหมาะ ยังช่วยประหยัดไฟลงได้ถึง 75% ของพลังงานที่ใช้ต่อรอบการซัก


วิธีประหยัดไฟฟ้าด้วยการใช้น้ำอุ่นซักผ้า
  1. ใช้พัดลมแทนการเปิดแอร์

พัดลมเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟน้อยกว่าเครื่องปรับอากาศ ในวันที่อากาศเย็นสบายหรือฝนตก การเปิดพัดลมแทนการใช้เครื่องปรับอากาศสามารถช่วยประหยัดไฟได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ พัดลมยังช่วยให้อากาศหมุนเวียน ถ่ายเทได้ดีขึ้น ถือเป็นการปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศซึ่งดีต่อเงินในกระเป๋าเพราะพัดลมกินไฟน้อยกว่า เพียง 50-70 วัตต์เท่านั้น ส่วนแอร์ใช้กำลังไฟสูงกว่ามากถึง 750-1,200 วัตต์ ซึ่งกินไฟมากกว่า

พัดลมเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟน้อยกว่าเครื่องปรับอากาศ ในวันที่อากาศเย็นสบายหรือฝนตก การเปิดพัดลมแทนการใช้เครื่องปรับอากาศสามารถช่วยประหยัดไฟได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ พัดลมยังช่วยให้อากาศหมุนเวียน ถ่ายเทได้ดีขึ้น ถือเป็นการปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศซึ่งดีต่อเงินในกระเป๋าเพราะพัดลมกินไฟน้อยกว่า เพียง 50-70 วัตต์เท่านั้น ส่วนแอร์ใช้กำลังไฟสูงกว่ามากถึง 750-1,200 วัตต์ ซึ่งกินไฟมากกว่า




วิธีประหยัดไฟง่ายๆ เพียงเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน


  1. เลือกใช้หลอดไฟ LED

การเลือกใช้หลอดไฟ LED แทนหลอดไฟธรรมดา เป็นวิธีประหยัดไฟฟ้าที่ดีในระยะยาว เพราะหลอดไฟ LED กินไฟน้อย และมีอายุใช้นานกว่า อีกทั้งยังให้แสงสว่างกว่าหลอดไฟธรรมดา เช่น หลอด LED 13W ที่ให้ความสว่าง 1,100 ลูเมน จะประหยัดกว่าหลอดตะเกียบที่ใช้ 13W เท่ากัน แต่ให้ความสว่างน้อยกว่าเพียง 800 ลูเมน หรือคิดง่าย ๆ ก็คือ หลอดไฟ LED ประหยัดไฟได้มากถึง 80-90% เมื่อเทียบกับหลอดไส้ และ 40% เมื่อเทียบกับหลอดตะเกียบ แถมยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และลดความเสี่ยงจากรังสี UV ด้วย 

วิธีประหยัดไฟฟ้าด้วยการเลือกใช้หลอดไฟ LED


  1. เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ติดฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5

วิธีประหยัดไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพในระยะยาว คือ การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพราะสามารถประหยัดไฟได้มากกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปสูงสุด 30% อย่างไรก็ตามความสามารถในการประหยัดไฟ ยังขึ้นอยู่กับจำนวนดาวที่ได้ด้วย เช่น


  • ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 1 ดาว ประหยัดไฟมากกว่าเบอร์ 5 ปกติ 10-20%
  • ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 2 ดาว ประหยัดไฟมากกว่าเบอร์ 5 ปกติ 20-30%
  • ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 3 ดาว ประหยัดไฟมากกว่าเบอร์ 5 ปกติ 30% ขึ้นไป
วิธีประหยัดไฟฟ้าด้วยการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ติดฉลากประหยัดไฟ


  1. เลือกตำแหน่งวางตู้เย็น

วิธีประหยัดไฟฟ้าที่หลายคนอาจลืมคิดไป คือ การเลือกตำแหน่งวางตู้เย็นให้ดีก่อนจะขนของเข้าบ้าน ควรวางตู้เย็นให้ห่างจากแหล่งความร้อน เช่น หน้าต่างที่แสงแดดส่องโดยตรง เพื่อป้องกันไม่ให้ตู้เย็นต้องทำงานหนักเกินไป และวางตู้เย็นห่างจากผนังอย่างน้อย 15 เซนติเมตร เพื่อให้อากาศไหลเวียน ระบายความร้อน ซึ่งช่วยประหยัดไฟได้ประมาณ 5% - 10% อย่างไรก็ตามเปอร์เซ็นต์ที่แน่นอนอาจแตกต่างกันไป ตามรุ่นตู้เย็น อุณหภูมิห้อง และสภาพแวดล้อม 

วิธีประหยัดไฟฟ้าด้วยการวางตู้เย็นให้ห่างจากแหล่งความร้อน

ตู้เย็นไม่เย็นเกิดจากอะไร มาดูสาเหตุและวิธีแก้ไขเบื้องต้น


  1. ละลายน้ำแข็งในตู้เย็นสม่ำเสมอ

เมื่อตู้เย็นมีน้ำแข็งเกาะหนาเกินไปโดยเฉพาะในช่องแช่แข็งทำให้ตู้เย็นไม่สามารถถ่ายเทความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ คอมเพรสเซอร์ต้องทำงานหนักและนานขึ้นเพื่อรักษาอุณหภูมิที่ตั้งไว้ส่งผลให้ตู้เย็นกินไฟมากขึ้น การละลายน้ำแข็งในตู้เย็นอย่างสม่ำเสมอ ทุก ๆ 2-3 เดือน หรือเมื่อสังเกตเห็นน้ำแข็งเริ่มเกาะหนา จึงเป็นการช่วยให้ระบบทำความเย็นทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ลดภาระของคอมเพรสเซอร์ และช่วยประหยัดค่าไฟได้ประมาณ 5%

เมื่อตู้เย็นมีน้ำแข็งเกาะหนาเกินไปโดยเฉพาะในช่องแช่แข็งทำให้ตู้เย็นไม่สามารถถ่ายเทความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ คอมเพรสเซอร์ต้องทำงานหนักและนานขึ้นเพื่อรักษาอุณหภูมิที่ตั้งไว้ส่งผลให้ตู้เย็นกินไฟมากขึ้น การละลายน้ำแข็งในตู้เย็นอย่างสม่ำเสมอ ทุก ๆ 2-3 เดือน หรือเมื่อสังเกตเห็นน้ำแข็งเริ่มเกาะหนา จึงเป็นการช่วยให้ระบบทำความเย็นทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ลดภาระของคอมเพรสเซอร์ และช่วยประหยัดค่าไฟได้ประมาณ 5%


  1. ล้างฟิวเตอร์หรือแผ่นกรองแอร์ทุก 2 สัปดาห์

การทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ เช่น การทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศของเครื่องปรับอากาศเพื่อไม่ให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักเกินไป จะช่วยประหยัดไฟได้ 5-10% เนื่องจากแอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดการใช้พลังงาน และยังเป็นการยืดอายุการใช้งานของแอร์ได้อีกด้วย 

วิธีประหยัดไฟฟ้าด้วยการทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้า


  1. ติดตั้งระบบระบายอากาศ

อยากประหยัดไฟในบ้าน จะต้องมีระบบระบายอากาศที่ดี ช่วยถ่ายเทอากาศ ระบายความร้อนสะสมภายในบ้าน เพื่อที่ว่าเครื่องปรับอากาศจะไม่ต้องทำงานหนักเกินไป นอกจากนี้ การติดตั้งระบบระบายอากาศที่ดียังมีส่วนช่วยประหยัดไฟได้ประมาณ 10–20% 

วิธีประหยัดไฟฟ้าด้วยการระบบระบายอากาศ


  1. เลี่ยงการใช้อุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดความร้อนตอนเปิดแอร์

หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดความร้อน เช่น เตาอบ เตารีดหรือเครื่องซักผ้า ในขณะที่เปิดเครื่องปรับอากาศ เพราะจะทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อรักษาอุณหภูมิ ยิ่งแอร์ทำงานหนักจะยิ่งกินไฟมากขึ้นถึง 3%

วิธีประหยัดไฟฟ้าด้วยการไม่ใช้อุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดความร้อน


  1. ปลูกต้นไม้บริเวณรอบบ้าน

การปลูกต้นไม้รอบบ้านไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้บ้านร่มรื่นน่าอยู่อาศัย แต่ยังช่วยลดอุณหภูมิโดยรอบบ้านได้ประมาณ 2-5 องศาเซลเซียส และยังช่วยลดการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศลงได้อีกประมาณ 10-15%   เพราะต้นไม้ช่วยให้ร่มเงาและดูดซับความร้อน ทำให้บ้านเย็นลง ช่วยประหยัดไฟและลดการพึ่งพาเครื่องปรับอากาศ นอกจากนี้การปลูกต้นไม้ยังช่วยเพิ่มออกซิเจนให้อากาศบริสุทธิ์อีกด้วย

วิธีประหยัดไฟฟ้าด้วยการปลูกต้นไม้บริเวณรอบบ้าน




วิธีประหยัดไฟง่าย ๆ เพียงใช้เทคโนโลยีช่วยประหยัดพลังงาน


  1. เลือกใช้ระบบ Smart Home บ้านอัจฉริยะ

ระบบ Smart Home หรือบ้านอัจฉริยะ เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยควบคุมการใช้พลังงานในบ้านได้ โดยระบบ Smart Home นี้สามารถควบคุมการเปิด-ปิดไฟ ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ และจัดการอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ผ่านสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต

เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียบค้างไว้แม้ไม่ได้เปิดใช้งาน จะกินไฟแฝง (Standby Power) ประมาณ 5–10% ของค่าไฟทั้งบ้าน ระบบ Smart Home จะช่วยลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น และประหยัดไฟได้มากถึง 20-30% (ขึ้นกับการใช้งาน)

วิธีประหยัดไฟฟ้าด้วยการใช้ระบบ Smart Home

ส่องทุกซอกทุกมุม นวัตกรรมบ้านสีเขียวสุดประหยัดพลังงาน


  1. ตรวจสอบการใช้ไฟผ่านแอปของการไฟฟ้า (MEA, PEA Smart Life)

การหมั่นตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้าช่วยให้ทราบถึงปริมาณการใช้ไฟฟ้าในแต่ละวัน สามารถวางแผนวิธีประหยัดไฟฟ้า และควบคุมการใช้พลังงานได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้ง หากพบว่า มีการใช้ไฟฟ้าสูงผิดปกติก็จะสามารถตรวจสอบ และแก้ไขได้ทันท่วงที

วิธีประหยัดไฟฟ้าด้วยการตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้า


  1. ตรวจสอบสายไฟและปลั๊กให้อยู่ในสภาพดี

การตรวจสอบสายไฟและปลั๊กให้อยู่ในสภาพดีเป็นวิธีที่ทั้งประหยัดไฟและเพิ่มความปลอดภัยในบ้าน สายไฟที่ชำรุดหรือปลั๊กที่หลวมจะทำให้เกิดไฟรั่วและความต้านทานไฟฟ้าสูง ส่งผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าต้องใช้พลังงานมากขึ้นและอาจเกิดความร้อนสะสมจนเสี่ยงไฟไหม้

จากข้อมูลของ กฟผ. พบว่าสายไฟที่ชำรุดอาจทำให้เสียพลังงานไฟฟ้าประมาณ 3-5% ของการใช้ไฟรวมในบ้าน ดังนั้น การตรวจสอบสายไฟและปลั๊กทุก 6 เดือน และเลือกใช้สายไฟมาตรฐาน มอก. ถือเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยลดค่าไฟและเพิ่มความปลอดภัยในบ้านได้ดี


  1. ติดตั้งโซลาร์เซลล์ ทางเลือกประหยัดไฟด้วยพลังงานแสงอาทิตย์

การติดตั้งโซลาร์เซลล์ คือ การลงทุนในพลังงานที่มีความยั่งยืน ที่สำคัญการใช้พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ ยังเหมาะกับประเทศไทยที่มีแสงแดดเกือบตลอดทั้งปีอีกด้วย

โดยแผงโซลาร์จะทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นกระแสไฟฟ้าสำหรับใช้ในครัวเรือนโดยตรง ทำให้เราใช้ฟ้าระบบโครงข่ายน้อยลง โดยเฉพาะในช่วงกลางวันที่มีการใช้ไฟสูง ทำให้ประหยัดไฟมากขึ้น 30-60% ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับขนาดของระบบและการใช้ไฟฟ้าจริง

นอกจากนี้ไฟฟ้าที่ผลิตมาปริมาณมากเกินกำหนดก็ยังสามารถขายคืนให้กับการไฟฟ้า เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่ทั้งประหยัดแถมได้เงินอีกด้วย




วิธีคำนวณค่าไฟเบื้องต้นด้วยตัวเอง

วิธีคำนวณค่าไฟเบื้องต้นสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยเริ่มจากสำรวจเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชิ้นภายในบ้านว่า กำลังไฟฟ้า (วัตต์) เท่าไหร่ จากนั้น นำไปคำนวณด้วยสูตรด้านล่างนี้ได้เลย


ตัวอย่างเช่น

  • เครื่องปรับอากาศ 18,000 BTU จำนวน 3 เครื่อง ใช้กำลังไฟ 1,800 วัตต์ เปิดใช้งาน 8 ชั่วโมง
  • สมาร์ตทีวี 1 เครื่อง ใช้กำลังไฟ 180 วัตต์ เปิดใช้งาน 5 ชั่วโมง
  • หลอดไฟ LED จำนวน 8 หลอด ใช้กำลังไฟ 15 วัตต์ เปิดใช้งาน 5 ชั่วโมง


กำลังไฟฟ้า (วัตต์) x จำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้า x จำนวนชั่วโมงที่ใช้ใน 1 วัน
1000

=

จำนวนหน่วยต่อวัน (ยูนิต)


ซึ่งจะคำนวณออกมาได้ดังนี้

  • เครื่องปรับอากาศ 3 เครื่อง
    • กำลังไฟรวม 1,800 วัตต์ x 3 เครื่อง = 5,400 วัตต์
    • การใช้ไฟต่อวัน (5,400/1,000) x 8 = 43.20 หน่วยต่อวัน
    • การใช้ไฟต่อเดือน 43.20 x 30 = 1296.00 หน่วยต่อเดือน
  • สมาร์ตทีวี 1 เครื่อง
    • กำลังไฟรวม 180 วัตต์ x 1 เครื่อง = 180 วัตต์
    • การใช้ไฟต่อวัน (180/1,000) x 5 ชั่วโมง = 0.90 หน่วยต่อวัน
    • การใช้ไฟต่อเดือน 0.90 หน่วย x 30 = 27.00 หน่วยต่อเดือน
  • หลอดไฟ LED 8 หลอด
    • กำลังไฟรวม 15 วัตต์ x 8 หลอด = 120 วัตต์
    • การใช้ไฟต่อวัน (120/1,000) x 5 ชั่วโมง = 0.60 หน่วยต่อวัน
    • การใช้ไฟต่อเดือน 0.60 หน่วย x 30 วัน = 18.00 หน่วยต่อเดือน

รวมการใช้ไฟฟ้าต่อวัน 43.20 + 0.90 + 0.60 = 44.70 หน่วยต่อวัน
รวมการใช้ไฟฟ้าต่อเดือน 1,296.00 + 27.00 + 18.00 = 1,341.00 หน่วยต่อเดือน

และเมื่อคำนวณจำนวนหน่วยหรือยูนิตมาแล้ว สามารถนำไปเทียบราคาตามอัตราค่าไฟของการไฟฟ้านครหลวงหรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้เลย โดยเราจะรู้ว่า ในแต่ละวันหรือเดือน ต้องเสียค่าไฟเท่าไหร่ สามารถวางแผนวิธีประหยัดไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น




การประหยัดไฟฟ้าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดค่าใช้จ่าย และช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้วยวิธีประหยัดพลังงาน 25 ข้อที่แสนสิรินำมาฝาก ไม่ว่าจะทั้งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ และการจัดการพื้นที่ในบ้าน หากใครกำลังมองหาบ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮมที่ประหยัดพลังงาน ช่วยลดค่าไฟ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถ


เข้ามาดูเพิ่มเติมได้ที่ sansiri.com แสนสิริมีโครงการมากมายให้เลือกสรร

ที่มา การไฟฟ้านครหลวง, กฟผ.

แสนสิริ อลังเซล
จ่ายน้อย คุ้มมาก!!
จัดใหญ่ส่งท้ายปี ลงสูงสุด 10 ล้าน*

คู่มืออสังหาฯยอดนิยม

  1. ซื้อบ้านควรหันทิศไหนดี ทิศใต้หรือทิศเหนือตามฮวงจุ้ย อ่านเพิ่มเติม >


  1. ผ่อนคอนโดเดือนละ 3,000-5,000 ทำได้จริงหรือหลอก? | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >


  1. ดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 1.50% แล้วคนซื้อบ้านได้ประโยชน์อะไร อ่านเพิ่มเติม >


  1. รวมมาตรการกระตุ้นซื้อบ้าน อสังหา 2568 ลดค่าโอน ดอกเบี้ยถูก | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >


  1. ส้วมตัน ชักโครกกดไม่ลง มีสาเหตุมาจากอะไร พร้อมวิธีแก้ส้วมตันด้วยตัวเอง อ่านเพิ่มเติม >


โครงการที่น่าสนใจ

โครงการพร้อมอยู่
บุราสิริ พระราม 2

บุราสิริ พระราม 2

บ้านเดี่ยว พระราม 2 บรรยากาศรีสอร์ท เงียบสงบ พร้อมส่วนกลางครบครัน ทั้ง สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ลู่วิ่ง เดินทางง่ายใกล้ทางด่วน

เริ่มต้นที่ 8.99 ล้านบาท
โครงการพร้อมอยู่
สราญสิริ รามคำแหง

สราญสิริ รามคำแหง

บ้านเดี่ยว รามคำแหง ซีรีส์ใหม่สไตล์ Modern Farmhouse ใกล้ชิดธรรมชาติ เดินทางสะดวก ใกล้กรุงเทพกรีฑา

เริ่มต้นที่ 7.99 ล้านบาท
โครงการพร้อมอยู่
เศรษฐสิริ ดอนเมือง

เศรษฐสิริ ดอนเมือง

บ้านเดี่ยว ดอนเมือง ในสไตล์ Georigian ทำเลดี ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และสนามบินดอนเมือง

เริ่มต้นที่ 12.99 ล้านบาท
โครงการพร้อมอยู่
เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์ - นครอินทร์

เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์ - นครอินทร์

บ้านเดี่ยว ราชพฤกษ์ สไตล์ Modern Classic ทำเลใจกลางราชพฤกษ์ ใกล้เซ็นทรัลเวสต์วิลล์และทางด่วน

เริ่มต้นที่ 13 ล้านบาท
โครงการพร้อมอยู่
สราญสิริ เกาะแก้ว รีทรีต

สราญสิริ เกาะแก้ว รีทรีต

บ้านเดี่ยวสไตล์ไทยโมเดิร์น ในบรรยากาศแห่งการพักผ่อน ใกล้ชิดธรรมชาติ บนทำเลส่วนตัวเกาะแก้วคอมมูนิตี้

เริ่มต้นที่ 8.49 ล้านบาท
โครงการพร้อมอยู่
เดอะ ริเวอร์

เดอะ ริเวอร์

บ้านเดี่ยวดีไซน์โมเดิร์น รีสอร์ท เพียง 8 ยูนิต ตั้งอยู่ริมน้ำอันแสนสงบ สำหรับผู้ชื่นชอบความเรียบง่าย ทันสมัย และความร่มรื่นของธรรมชาติ

เริ่มต้นที่ 25 ล้านบาท

บทความที่เกี่ยวข้องกับ “โฮมแคร์”

ส้วมตันทำไงดี รวม 7 วิธีแก้ส้วมตัน ชักโครกกดไม่ลง

ส้วมตัน ชักโครกกดไม่ลงทำไงดี มาดูเทคนิควิธีแก้ส้วมตันง่าย ๆ ได้ด้วยตัวเอง พร้อมอุปกรณ์แก้ส้วมตันดีๆ ที่ควรมีติดบ้านกัน

10 วิธีดับกลิ่นตู้เย็น ตู้เย็นมีกลิ่นด้วยสิ่งของใกล้ตัว

ตู้เย็นมีกลิ่นรู้สึกไม่สะอาดทำอย่างไรดี ทำไมตู้เย็นถึงมีกลิ่น พร้อมวิธีดับกลิ่นตู้เย็นให้อยู่หมัด จัดการได้ด้วยสิ่งของใกล้ตัว จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

แอร์ไม่เย็นมีแต่ลมทำยังไง พร้อมวิธีแก้แอร์ไม่เย็นออกแต่ลม

แอร์ไม่เย็นมีแต่ลม หรือ แอร์ไม่เย็นออกแต่ลม เป็นปัญหากวนใจโดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน มาดู 10 สาเหตุของปัญหา พร้อมวิธีแก้ไขที่ทำได้ด้วยตัวเองในบทความนี้

ส้วมตันทำไงดี รวม 7 วิธีแก้ส้วมตัน ชักโครกกดไม่ลง

ส้วมตัน ชักโครกกดไม่ลงทำไงดี มาดูเทคนิควิธีแก้ส้วมตันง่าย ๆ ได้ด้วยตัวเอง พร้อมอุปกรณ์แก้ส้วมตันดีๆ ที่ควรมีติดบ้านกัน

10 วิธีดับกลิ่นตู้เย็น ตู้เย็นมีกลิ่นด้วยสิ่งของใกล้ตัว

ตู้เย็นมีกลิ่นรู้สึกไม่สะอาดทำอย่างไรดี ทำไมตู้เย็นถึงมีกลิ่น พร้อมวิธีดับกลิ่นตู้เย็นให้อยู่หมัด จัดการได้ด้วยสิ่งของใกล้ตัว จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

ไม่พลาด ข่าวสารและบทความดีๆ

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อรับข่าวสาร และข้อมูลสิทธิพิเศษจากแสนสิริก่อนใคร

ประเภทโครงการที่คุณสนใจ


เพื่อให้ท่านทราบวิธีและกระบวนการ ที่เราดำเนินการจัดเก็บข้อมูล วัตถุประสงค์การใช้ข้อมูล
ท่านสามารถศึกษารายละเอียด แบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ได้ที่นี่ คลิก

คำถามที่พบบ่อย

  • A :
  • - ซื้อบ้าน เป็นการลงทุนระยะยาว แต่สามารถสร้างสินทรัพย์ให้ตัวเองได้ และถ้าเลือกซื้อในทำเลที่ดีมีแนวโน้มที่จะสร้างกำไรได้
    - เช่าบ้าน เหมาะกับคนที่ยังไม่มั่นใจเรื่องทำเล และไม่ต้องการที่จะมีภาระผูกพันระยะยาว แต่ก็จะไม่มีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง และค่าเช่าอาจจะเพิ่มขึ้นหรือถูกบังคับให้ย้ายออก หากเจ้าของบ้านต้องการขายหรือใช้งานเอง

    สามารถเลือกดูโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมน่าลงทุนที่คุ้มค่าน่าซื้อได้ที่แสนสิริ
แสนสิริ อลังเซล
จ่ายน้อย คุ้มมาก!!
จัดใหญ่ส่งท้ายปี ลงสูงสุด 10 ล้าน*

คู่มืออสังหาฯยอดนิยม

  1. ซื้อบ้านควรหันทิศไหนดี ทิศใต้หรือทิศเหนือตามฮวงจุ้ย อ่านเพิ่มเติม >


  1. ผ่อนคอนโดเดือนละ 3,000-5,000 ทำได้จริงหรือหลอก? | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >


  1. ดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 1.50% แล้วคนซื้อบ้านได้ประโยชน์อะไร อ่านเพิ่มเติม >


  1. รวมมาตรการกระตุ้นซื้อบ้าน อสังหา 2568 ลดค่าโอน ดอกเบี้ยถูก | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >


  1. ส้วมตัน ชักโครกกดไม่ลง มีสาเหตุมาจากอะไร พร้อมวิธีแก้ส้วมตันด้วยตัวเอง อ่านเพิ่มเติม >