โดย Sansiri Editorial Team
อัปเดต :  10/10/2025
อัปเดต :  10/10/2025 ไอเดียตกแต่งบ้าน
6 หญ้าปลูกหน้าบ้านสายพันธุ์ไหนดี พร้อมวิธีปลูกหญ้าหน้าบ้าน | แสนสิริ

การปรับปรุงภูมิทัศน์รอบบ้านเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยเพิ่มความน่าอยู่ หลายคนเลือกที่จะปลูกหญ้าเพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวที่สดชื่น แต่ทราบหรือไม่ว่าการปลูกหญ้าหน้าบ้านไม่ได้ให้แค่ความสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยดูดซับและคายความร้อน ทำให้บริเวณรอบบ้านเย็นลงได้จริง อย่างไรก็ตาม หญ้ามีหลายสายพันธุ์ การเลือกชนิดของหญ้าปลูกหน้าบ้าน ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและการใช้งานจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้สนามหญ้าที่สวยงาม ทนทาน และดูแลรักษาง่าย


Highlight


ปลูกสนามหญ้าหน้าบ้านดีอย่างไร?

การมีสนามหญ้าหน้าบ้านไม่ได้ให้เพียงความสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความร้อนสะสมบนพื้นดินและลดแสงสะท้อนเข้าสู่ตัวบ้าน ทำให้บรรยากาศโดยรอบร่มรื่นและเย็นสบายขึ้น อีกทั้งยังเป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมกลางแจ้งของครอบครัว ช่วยดักจับฝุ่นละอองในอากาศ และเสริมมูลค่าให้กับตัวบ้าน การปลูกหญ้าจึงถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ทั้งในด้านความงามและประโยชน์ใช้สอย




สายพันธุ์หญ้ายอดนิยมที่นิยมปลูกหน้าบ้านมีอะไรบ้าง?

สายพันธุ์หญ้าที่นิยมปลูกหญ้าหน้าบ้าน


การเลือกสายพันธุ์หญ้าที่เหมาะสมเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างสนามหญ้าที่สมบูรณ์แบบ เราได้รวบรวม 6 สายพันธุ์ยอดนิยมที่เหมาะกับสภาพอากาศในประเทศไทยมาให้พิจารณา


หญ้าญี่ปุ่น นิยมใช้ปลูกหญ้าหน้าบ้าน
  1. หญ้าญี่ปุ่น

หญ้าญี่ปุ่น (Japanese Lawn Grass) เป็นสายพันธุ์ที่มาจากแถบเอเชียตะวันออก มีจุดเด่นที่ใบละเอียดเล็ก สีเขียวเข้มสวยงาม ให้สัมผัสที่หนาแน่นเมื่อขึ้นเต็มพื้นที่แล้ว เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการความสวยงามเป็นพิเศษ มี 2 ชนิด คือ ชนิดใบกว้าง และ ชนิดใบกลม


  • ลักษณะ: ลำต้นมีขนาดเล็กและแข็ง ใบมีสีเขียวเข้ม ปลายใบแหลมและแข็งกระด้างเมื่อสัมผัส ในไทยนิยมปลูกชนิดใบกลมซึ่งมีขนาดเล็กและละเอียดกว่าชนิดใบกว้าง
  • ข้อดี: มีความสวยงามสูง ทนทานต่ออากาศร้อนและสภาพแห้งแล้งได้ดี เมื่อปลูกหญ้าจนรากเดินเต็มที่แล้วจะมีความแข็งแรงและตายยาก
  • ข้อเสีย: เติบโตช้าในช่วงแรก ใบมีความแข็งกระด้าง อาจระคายเคืองผิวหนัง ต้องใช้ความถี่ในการตัดแต่งสูง หากปล่อยให้ยาวเกินไปจะตัดลำบาก
  • วิธีการปลูก: เจริญเติบโตได้ดีในดินเหนียว สามารถปลูกได้ทั้งแบบปูเป็นแผ่น หรือแยกเป็นกอเล็กๆ ปักลงดิน
  • วิธีการดูแล: ต้องการแสงแดดจัดตลอดวันและต้องการน้ำในปริมาณมาก แต่ไม่ชอบพื้นที่ชื้นแฉะหรือมีน้ำขัง ควรตัดแต่งทุก 5-10 วันเพื่อให้ใบสั้นและสวยงาม
  • พื้นที่ที่เหมาะสมกับการปลูก: เหมาะสำหรับสวนหย่อมหรือพื้นที่ที่เน้นความสวยงามเป็นหลัก และมีเวลาในการดูแลตัดแต่งอย่างสม่ำเสมอ


หญ้านวลน้อย นิยมใช้ปลูกหญ้าหน้าบ้าน
  1. หญ้านวลน้อย

หญ้านวลน้อย (Manila Grass) คือ สายพันธุ์พื้นเมืองของไทยที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการนำมา ปลูกหญ้าหน้าบ้าน เนื่องจากคุณสมบัติที่ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดีและดูแลง่าย


  • ลักษณะ: ใบมีสีเขียวอ่อน ขนาดปานกลาง ไม่แข็งกระด้างเท่าหญ้าญี่ปุ่น ให้สัมผัสที่นุ่มนวลกว่า สามารถแผ่ขยายคลุมดินได้อย่างรวดเร็ว
  • ข้อดี: เติบโตเร็ว คลุมพื้นที่ได้แน่นสวยงาม ทนต่อการเหยียบย่ำได้ดีเยี่ยม และทนต่อแสงแดดจัดได้ตลอดวัน การตัดแต่งไม่ยุ่งยาก
  • ข้อเสีย: หากขาดน้ำเป็นเวลานานในสภาพอากาศที่ร้อนจัดอาจทำให้หญ้าตายได้ง่าย จึงต้องการการรดน้ำที่สม่ำเสมอ
  • วิธีการปลูก: เหมาะกับดินแทบทุกชนิด โดยเฉพาะดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดี นิยมขยายพันธุ์โดยใช้ส่วนของลำต้นหรือการปูเป็นแผ่น เพราะติดง่ายและโตเร็ว
  • วิธีการดูแล: ชอบพื้นที่กลางแจ้ง ต้องการแสงแดดเต็มที่ ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอในปริมาณปานกลาง และตัดแต่งทุก 1-2 สัปดาห์
  • พื้นที่ที่เหมาะสมกับการปลูก: เป็นหญ้าปลูกหน้าบ้าน ที่ใช้งานได้อเนกประสงค์ เหมาะสำหรับสนามทั่วไป สนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ หรือปลูกเพื่อป้องกันการพังทลายของหน้าดิน


หญ้ามาเลเซีย นิยมใช้ปลูกหญ้าหน้าบ้าน
  1. หญ้ามาเลเซีย

หญ้ามาเลเซีย (Tropical Carpet Grass) เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับการ ปลูกหญ้า ในพื้นที่ร่ม มีจุดเด่นที่ใบขนาดใหญ่และสีเขียวสด ทำให้พื้นที่ดูชุ่มชื้น


  • ลักษณะ: มีใบกว้างและใหญ่ที่สุดในบรรดาหญ้าปูสนาม สีเขียวเข้มสด ปลายใบแหลม ลำต้นเป็นข้อปล้องชัดเจน
  • ข้อดี: ใบมีความหนาแน่นสูง ช่วยป้องกันวัชพืชไม่ให้ขึ้นแทรกได้ดี เติบโตได้ดีมากในที่ร่มหรือมีแสงแดดรำไร ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้น
  • ข้อเสีย: ไม่ทนทานต่อการเหยียบย่ำอย่างรุนแรง ใต้ใบมีขนอ่อนๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวที่บอบบางได้
  • วิธีการปลูก: นิยมขยายพันธุ์ด้วยการแยกกอปลูก สามารถเจริญเติบโตได้ในดินทุกประเภท แต่จะชอบดินร่วนเป็นพิเศษ
  • วิธีการดูแล: ต้องการน้ำในปริมาณมาก แต่ต้องระวังอย่าให้มีน้ำท่วมขัง ควรปลูกในที่ร่มหรือใต้ชายคาบ้าน หากปลูกกลางแดดต้องรดน้ำบ่อยขึ้น ควรตัดแต่งทุก 10-15 วัน
  • พื้นที่ที่เหมาะกับการปลูก: เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพื้นที่ร่มใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือบริเวณข้างบ้านที่ไม่ค่อยโดนแดด


หญ้าไทเป นิยมใช้ปลูกหญ้าหน้าบ้าน
  1. หญ้าไทเป

หญ้าไทเป (Broadleaf Carpet Grass) หรือที่รู้จักในชื่อหญ้ามาเลเซียแคระ เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ชอบการตัดหญ้าบ่อยๆ เพราะมีลักษณะเด่นคือใบจะเลื้อยขนานไปกับพื้นดิน


  • ลักษณะ: ลักษณะคล้ายหญ้ามาเลเซียแต่มีข้อปล้องที่สั้นและเตี้ยกว่า ใบจะแผ่ขนานไปกับพื้นดิน ไม่ตั้งชันขึ้นด้านบน
  • ข้อดี: ไม่จำเป็นต้องตัดแต่งบ่อยนัก หรือแทบไม่ต้องตัดเลยตลอดอายุการใช้งาน เมื่อขึ้นเต็มที่จะหนาแน่นมากจนวัชพืชไม่สามารถแทรกขึ้นมาได้
  • ข้อเสีย: มีราคาสูงกว่าหญ้าชนิดอื่น และใช้เวลาค่อนข้างนานในการเจริญเติบโตจนคลุมพื้นที่ทั้งหมด
  • วิธีการปลูก: นิยมปลูกแบบแยกต้นปักลงดินทีละกอ สามารถปลูกได้ทั้งในที่ร่มและกลางแจ้ง และเข้ากันได้ดีกับดินหลายชนิด ยกเว้นดินที่มีความเค็มหรือเปรี้ยวจัด
  • วิธีการดูแล: ต้องการน้ำในระดับปานกลาง แต่ในช่วงแรกของการปลูกหญ้าควรให้น้ำสม่ำเสมอทั้งเช้าและเย็นเพื่อช่วยเร่งการเจริญเติบโต
  • พื้นที่ที่เหมาะกับการปลูก: เหมาะสำหรับลานหน้าบ้านหรือพื้นที่ที่ไม่ต้องการการบำรุงรักษามากนัก


หญ้าเบอร์มิวด้า นิยมใช้ปลูกหญ้าหน้าบ้าน
  1. หญ้าเบอร์มิวด้า

หญ้าเบอร์มิวด้า (Bermuda Grass) หรือหญ้าแพรก เป็นหญ้าที่มีความแข็งแรงทนทานสูงมาก สามารถฟื้นตัวจากการเหยียบย่ำได้อย่างรวดเร็ว


  • ลักษณะ: ลำต้นเลื้อยไปตามพื้นดิน ใบมีสีเขียวเข้ม เนื้อสัมผัสค่อนข้างหยาบ แตกกอได้รวดเร็วและหนาแน่น
  • ข้อดี: มีความทนทานสูงมาก สามารถปรับตัวได้ในทุกสภาพแวดล้อม ทนแล้ง ทนการเหยียบย่ำ และฟื้นตัวได้เร็ว
  • ข้อเสีย: เจริญเติบโตเร็วมากจนอาจรุกรานไปยังพื้นที่อื่นหรือขึ้นแทรกตามรอยแตกของพื้นทางเดิน ทำให้ต้องควบคุมและตัดแต่งบ่อยครั้ง
  • วิธีการปลูก: สามารถขยายพันธุ์ได้ง่ายทั้งจากการเพาะเมล็ด การใช้ลำต้น หรือราก เจริญเติบโตได้ดีในดินแทบทุกชนิด
  • วิธีการดูแล: ชอบแสงแดดจัดและต้องการน้ำในปริมาณที่เหมาะสม ควรตัดแต่งทุก 1-2 สัปดาห์ เพื่อควบคุมการเจริญเติบโตและรักษารูปลักษณ์ให้สวยงาม
  • พื้นที่ที่เหมาะกับการปลูก: เหมาะสำหรับสนามที่ใช้งานหนัก เช่น สนามกีฬา สนามกอล์ฟ หรือพื้นที่สาธารณะ


หญ้าพาสพาลัม นิยมใช้ปลูกหญ้าหน้าบ้าน
  1. หญ้าพาสพาลัม

หญ้าพาสพาลัม (Paspalum Grass) เป็นหญ้าที่ให้สัมผัสนุ่มนวลและมีสีเขียวที่เข้มสด ทำให้สนามดูสวยงามสบายตาเป็นพิเศษ


  • ลักษณะ: ใบมีสีเขียวเข้มสดใสกว่าหญ้าชนิดอื่น ปลายใบมีลักษณะมน ไม่แหลมคม ให้สัมผัสที่นุ่มนวลเมื่อเดินเท้าเปล่า
  • ข้อดี: สีสันสวยงามสบายตา ใบมีความนุ่มนวลสูง ทนทานต่ออากาศร้อนและสภาพแห้งแล้งได้ดีพอสมควร
  • ข้อเสีย: ไม่ทนต่อการเหยียบย่ำมากนักเนื่องจากใบที่นุ่ม และอาจมีปัญหาเรื่องแมลงและหนอนรบกวนได้ง่ายกว่าหญ้าชนิดอื่น
  • วิธีการปลูก: ปลูกโดยการหว่านส่วนของลำต้นหรือข้อปล้อง ชอบดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี และยังสามารถทนต่อดินเค็มได้เล็กน้อย
  • วิธีการดูแล: ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้หญ้าคงความสมบูรณ์และสีสันสดใส ต้องหมั่นกำจัดวัชพืช และตัดแต่งทุก 7-10 วัน
  • พื้นที่ที่เหมาะกับการปลูก: เหมาะกับการปลูกหญ้าหน้าบ้าน ที่เน้นความสวยงามและสัมผัสที่นุ่มนวล เช่น สวนหย่อม หรือสนามที่ไม่เน้นการใช้งานหนัก




ตารางสรุปหญ้าแต่ละสายพันธุ์เหมาะสมพื้นที่แบบใด

หญ้าสายพันธุ์ต่าง ๆ

พื้นที่ที่เหมาะสมในการปลูก

หญ้าญี่ปุ่น

สวนหย่อม พื้นที่โชว์ความสวยงาม ไม่เน้นการเหยียบย่ำ

หญ้านวลน้อย

สนามหญ้าอเนกประสงค์ สนามเด็กเล่น พื้นที่ที่ใช้งานบ่อย ๆ

หญ้ามาเลเซีย

พื้นที่ร่ม ใต้ต้นไม้ หรือข้างตัวบ้านที่ไม่โดนแดดจัด

หญ้าไทเป

พื้นที่ไม่ต้องการตัดหญ้าบ่อย ใช้ปลูกแทนที่วัชพืช

หญ้าเบอร์มิวด้า

พื้นที่ใช้งานหนัก หรือพื้นที่ที่ต้องการการฟื้นตัวเร็ว

หญ้าพาสพาลัม

สนามที่เน้นความสวยงาม เพราะให้สัมผัสที่นุ่ม ไม่เน้นใช้งานหนัก





วิธีปลูกหญ้าหน้าบ้านด้วยตัวเองทีละขั้นตอนมีอะไรบ้าง?

วิธีปลูกหญ้าหน้าบ้าน


การปลูกหญ้าด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ต้องเตรียมการให้ดีและทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง ก็จะได้สนามหญ้าที่สวยงามและแข็งแรง

  1. ขั้นตอนการเตรียมดิน

    การเตรียมดินที่ขั้นตอนสำคัญ ที่ช่วยให้หญ้าเติบโตดี แข็งแรง เพราะดินที่ดีจะช่วยให้รากหญ้าสามารถยึดเกาะและเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

    • เคลียร์หน้าดิน: กำจัดหญ้าปลูกหน้าบ้านเดิมออก ถอนวัชพืช นำก้อนหิน หรือเศษขยะออกจากพื้นที่ให้หมด อาจใช้จอบหรือเสียมในการขุดรากถอนโคนวัชพืชออกไป
    • ปรับหน้าดิน: พรวนดินให้ร่วนซุยและปรับระดับหน้าดินให้เรียบเสมอกัน อาจใช้ทรายหยาบหรือปุ๋ยคอกโรยทับหน้าดินเดิมประมาณ 5-10 ซม. เพื่อช่วยในการระบายน้ำและทำให้ดินโปร่งขึ้น
    • เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม: อุปกรณ์พื้นฐานที่ควรมี ได้แก่ จอบ เสียม คราดสำหรับเกลี่ยดิน สายยางสำหรับรดน้ำ และอาจมีลูกกลิ้งสำหรับบดอัดดินให้แน่น


  2. การปูแผ่นหญ้าแบบต่าง ๆ

    • การปูหญ้าแบบใช้เมล็ด เป็นวิธีที่ประหยัด แต่ไม่เป็นที่นิยมในประเทศไทย เพราะนอกจากในช่วงแรก ๆ ต้องดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดแล้ว เมล็ดพันธุ์ยังหายาก ต้องนำเข้าเท่านั้น
    • การปูหญ้าแบบใช้แผ่นหญ้า (Blok Sodding) เป็นวิธีการปูหญ้าที่สะดวก รวดเร็วและเห็นผลทันที โดยนำแผ่นหญ้าสำเร็จรูปมาวางเรียงต่อกันให้เต็มพื้นที่ เหมาะกับหญ้านวลน้อย หญ้าญี่ปุ่น และหญ้ามาเลเซีย
    • การปูหญ้าแบบใช้ท่อนหญ้า (Dot Sodding) คือการฉีกแผ่นหญ้าเป็นชิ้นเล็ก ๆ ชิ้นละประมาณ 2-3 นิ้ว แล้วนำไปกดลงบนดินที่เตรียมไว้ แล้วรดน้ำให้ชุ่ม วิธีการปลูกแบบนี้เหมาะกับสนามหญ้าขนาดใหญ่และหญ้าที่เลื้อยเร็ว เช่น หญ้านวลน้อย หญ้าเบอร์มิวด้า หญ้ามาเลเซีย
    • การปูหญ้าแบบแยกต้นหรือปักเป็นแถว (Stip Sodding) เป็นการแยกหญ้าเป็นกอเล็กๆ แล้วนำส่วนลำต้นหรือที่เรียกว่า ไหล (Stolon) ไปปักดำในดินเป็นแถว โดยต้องมีรากหญ้าหนาไม่น้อยกว่า 4 เซนติเมตร โดยปลูกเว้นระยะห่างไม่เกิน 20 เซนติเมตร เพื่อให้หญ้าค่อย ๆ ขยายจนเต็มพื้นที่
    • การปูหญ้าด้วยการหว่าน (Stolonizing) เป็นการปูหญ้าโดยนำส่วนลำต้นหรือไหล (Stolon) มาแช่น้ำให้รากงอก แล้วแบ่งออกจากการเป็นต้น ๆ แล้วหว่านต้นหญ้าที่ทำการแบ่งให้ทั่วพื้นที่ หลังจากนั้นกดรากให้จมลงในดิน แล้วรอให้หญ้าที่หว่านไปขยายให้เต็มสนาม


    ที่มา: กรมปกครองส่วนท้องถิ่น


  3. เทคนิคการวางและย่ำหญ้าให้ติดกับดิน

    หลังจากเตรียมดินเรียบร้อยแล้ว หากเลือกวิธีปูแบบใช้แผ่นหญ้า ควรเริ่มวางแผ่นหญ้าจากมุมใดมุมหนึ่ง โดยวางให้ชิดติดกันมากที่สุด ไม่ให้มีช่องว่างระหว่างแผ่น เมื่อปูเสร็จแล้ว ให้ใช้ลูกกลิ้งที่มีน้ำหนักพอเหมาะกลิ้งทับ หรือใช้แผ่นไม้เรียบๆ วางแล้วใช้เท้าเหยียบย่ำเบาๆ ให้ทั่ว เพื่อให้รากหญ้าสัมผัสกับดินอย่างแนบสนิทที่สุด ซึ่งจะช่วยให้หญ้าตั้งตัวได้เร็วขึ้น


  4. รดน้ำและดูแลหลังปลูกใน 1-2 สัปดาห์แรก

    ช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังการ ปลูกหญ้า ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุด ควรรดน้ำให้ดินชุ่มชื้นอยู่เสมอ แต่อย่าให้แฉะจนเกินไป แนะนำให้รดน้ำวันละ 2-3 ครั้ง (เช้า-กลางวัน-เย็น) โดยเฉพาะในวันที่แดดจัด การให้น้ำที่เพียงพอจะช่วยกระตุ้นให้รากงอกใหม่และยึดเกาะกับดินได้เร็วขึ้น ในช่วงนี้ควรหลีกเลี่ยงการเดินเหยียบย่ำบนสนามหญ้าโดยเด็ดขาด




เคล็ดลับการดูแลรักษาสนามหญ้าให้สวย เขียวชอุ่มมีอะไรบ้าง?

เคล็ดลับการปลูกหญ้าหน้าบ้าน


  • วิธีรดน้ำ: หลังจากหญ้าตั้งตัวได้แล้ว (ประมาณ 2-3 สัปดาห์) ให้ลดความถี่ในการรดน้ำลงเหลือวันละ 1 ครั้งในช่วงเช้าก็เพียงพอ ควรรดให้ชุ่มเพื่อให้รากหยั่งลึก
  • หมั่นพรวนดินและใส่ปุ๋ย: ควรพรวนดินอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อเพิ่มอากาศในดิน และใส่ปุ๋ยสูตรที่มีไนโตรเจนสูงทุก 2-3 เดือน เพื่อบำรุงให้ใบหญ้ามีสีเขียวสด
  • ตัดแต่งหญ้าให้สวยงาม: ควรตัดหญ้าอย่างสม่ำเสมอตามความยาวที่เหมาะสมของแต่ละสายพันธุ์ (ปกติทุก 1-2 สัปดาห์) การตัดหญ้าเป็นประจำจะช่วยให้หญ้าแตกกอหนาแน่นขึ้น
  • การกำจัดวัชพืชและดูแลโรคที่พบบ่อย: ควรรีบถอนวัชพืชทิ้งทันทีที่พบเห็น เพื่อไม่ให้มาแย่งสารอาหาร และสังเกตอาการของโรคพืช เช่น โรคราสนิม เพื่อหาทางป้องกันแก้ไข
  • การป้องกันปัญหาดินยุบ: หากพบว่าดินเริ่มยุบตัวเป็นแอ่ง ควรนำทรายมาเติมและปรับระดับให้เรียบเสมอกัน เพื่อป้องกันน้ำขังซึ่งเป็นสาเหตุของรากเน่า

การปลูกหญ้าเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวและช่วยลดอุณหภูมิรอบ ๆ บ้าน ช่วยให้บ้านเย็นลงได้ แต่การปลูกหญ้าหน้าบ้านให้ได้สนามที่เขียวชอุ่ม ต้องให้ความสำคัญตั้งแต่การเลือกสายพันธุ์หญ้าปลูกหน้าบ้าน ให้เหมาะสมกับสภาพแสงแดดและการใช้งาน รวมถึงการเตรียมดินที่ถูกต้องและการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ ทั้งการรดน้ำ การตัดแต่ง และการใส่ปุ๋ย หากทำตามขั้นตอนเหล่านี้ ก็จะได้สนามหญ้าที่สวยงามและแข็งแรง เพื่อพื้นที่พักผ่อนของทุกคนในบ้าน




อ้างอิง จระเข้, บ้านและสวน

SANSIRI ARENA แชมป์เปี้ยนดีล
ชีวิตปัง ได้ดีลดั่งใจ
จ่ายน้อย คุ้มมาก!!
ยูนิตบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม ราคาพิเศษ

คู่มืออสังหาฯยอดนิยม

  1. ดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 1.50% แล้วคนซื้อบ้านได้ประโยชน์อะไร อ่านเพิ่มเติม >


  1. ซื้อบ้านควรหันทิศไหนดี ทิศใต้หรือทิศเหนือตามฮวงจุ้ย อ่านเพิ่มเติม >


  1. ผ่อนคอนโดเดือนละ 3,000-5,000 ทำได้จริงหรือหลอก? | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >


  1. รวมมาตรการกระตุ้นซื้อบ้าน อสังหา 2568 ลดค่าโอน ดอกเบี้ยถูก | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >


  1. ส้วมตัน ชักโครกกดไม่ลง มีสาเหตุมาจากอะไร พร้อมวิธีแก้ส้วมตันด้วยตัวเอง อ่านเพิ่มเติม >


โครงการที่น่าสนใจ

โครงการพร้อมอยู่
สราญสิริ โคราช

สราญสิริ โคราช

บ้านเดี่ยว โคราช สไตล์สมัยใหม่ พร้อมคลับเฮาส์ในโซนส่วนตัว เดินทางสะดวกสบาย ติดถนนใหญ่ 5 นาที เชื่อมต่อมอเตอร์เวย์

เริ่มต้นที่ 3.99 ล้านบาท
โครงการพร้อมอยู่
สราญสิริ ประชาอุทิศ 90

สราญสิริ ประชาอุทิศ 90

บ้านเดี่ยว ประชาอุทิศ 90 บ้านสไตล์ Modern Farmhouse ใกล้ทางด่วน เดินทางสะดวกสู่โซน สีลม-สาทร ได้สะดวก

เริ่มต้นที่ 5.99 ล้านบาท
โครงการพร้อมอยู่
สราญสิริ รามคำแหง

สราญสิริ รามคำแหง

บ้านเดี่ยว รามคำแหง ซีรีส์ใหม่สไตล์ Modern Farmhouse ใกล้ชิดธรรมชาติ เดินทางสะดวก ใกล้กรุงเทพกรีฑา

เริ่มต้นที่ 7.99 ล้านบาท
โครงการพร้อมอยู่
สราญสิริ บางนา

สราญสิริ บางนา

บ้านเดี่ยวซีรีส์ใหม่ สไตล์ URBAN FARMHOUSE วิวทะเลสาบ ใกล้ทางด่วน และเมกาบางนา ครบทุกศักยภาพเพื่อการเดินทาง

เริ่มต้นที่ 6.99 ล้านบาท
โครงการพร้อมอยู่
สราญสิริ ศรีวารี 2

สราญสิริ ศรีวารี 2

บ้านเดี่ยว ศรีวารี-ลาดกระบัง สไตล์ Urban Farmhouse วิวทะเลสาบ ใกล้ทั้งทางด่วนพระราม9 - มอเตอร์เวย์ และสนามบินสุวรรณภูมิเพียง 8 กม.

เริ่มต้นที่ 5.99 ล้านบาท
โครงการพร้อมอยู่
สราญสิริ ราชพฤกษ์ - 346

สราญสิริ ราชพฤกษ์ - 346

บ้านเดี่ยว ดีไซน์ใหม่ สไตล์ Modern Farmhouse ติดถนนใหญ่ ราชพฤกษ์ (ตัดใหม่) รายล้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

เริ่มต้นที่ 6.59 ล้านบาท
โครงการพร้อมอยู่
สราญสิริ ศาลายา - ปิ่นเกล้า

สราญสิริ ศาลายา - ปิ่นเกล้า

บ้านเดี่ยว ศาลายา-ปิ่นเกล้า สไตล์ Urban Farmhouse ใกล้มหิดล – ศาลายา ใกล้คู่ขนานบรมฯ 10 นาที

เริ่มต้นที่ 7.89 ล้านบาท
โครงการใหม่
สราญสิริ รังสิต 2

สราญสิริ รังสิต 2

บ้านเดี่ยว รังสิต โครงการใหม่ สไตล์โมเดิร์นฟาร์มเฮาส์ บรรยากาศริมน้ำ ใกล้ทางด่วนเพียง 1 กม. สะดวกสบายทุกการเดินทางเพื่อชีวิตคนเมือง

เริ่มต้นที่ 7.59 ล้านบาท

บทความที่เกี่ยวข้องกับ “ไอเดียตกแต่งบ้าน”

20 แบบบ้าน 2 ชั้น บ้านสไตล์โมเดิร์น บนทำเลศักยภาพ

พบแรงบันดาลใจ 20 แบบบ้าน 2 ชั้น บ้านโมเดิร์น ดีไซน์เรียบหรู โปร่งสบาย เน้นเส้นสายชัดเจน ใช้วัสดุสมัยใหม่ เหมาะกับสมาชิกทุกคนในครอบครัว

ยลโฉมแบบบ้านโมเดิร์นคลาสสิค กับงานดีไซน์เหนือกาลเวลา

การผสมผสานระหว่าความคลาสสิคกับโมเดิร์นเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็นแบบบ้านที่งานดีไซน์งดงามอยู่เหนือกาลเวลา กับสไตล์โมเดิร์นคลาสสิค แรงบันดาลใจในการสร้างบ้านหรู

บ้านสีเขียว นวัตกรรมบ้าน Sustainable แห่งความยั่งยืน

อยากมีบ้านสีเขียวต้องทำอะไรบ้าง? เราจะพามาทำความเข้าใจแนวคิดความยั่งยืน และได้รู้ว่าบ้านแบบนี้จะประหยัดพลังงานได้มากแค่ไหน

20 แบบบ้าน 2 ชั้น บ้านสไตล์โมเดิร์น บนทำเลศักยภาพ

พบแรงบันดาลใจ 20 แบบบ้าน 2 ชั้น บ้านโมเดิร์น ดีไซน์เรียบหรู โปร่งสบาย เน้นเส้นสายชัดเจน ใช้วัสดุสมัยใหม่ เหมาะกับสมาชิกทุกคนในครอบครัว

ยลโฉมแบบบ้านโมเดิร์นคลาสสิค กับงานดีไซน์เหนือกาลเวลา

การผสมผสานระหว่าความคลาสสิคกับโมเดิร์นเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็นแบบบ้านที่งานดีไซน์งดงามอยู่เหนือกาลเวลา กับสไตล์โมเดิร์นคลาสสิค แรงบันดาลใจในการสร้างบ้านหรู

ไม่พลาด ข่าวสารและบทความดีๆ

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อรับข่าวสาร และข้อมูลสิทธิพิเศษจากแสนสิริก่อนใคร

ประเภทโครงการที่คุณสนใจ


เพื่อให้ท่านทราบวิธีและกระบวนการ ที่เราดำเนินการจัดเก็บข้อมูล วัตถุประสงค์การใช้ข้อมูล
ท่านสามารถศึกษารายละเอียด แบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ได้ที่นี่ คลิก

คำถามที่พบบ่อย

  • A :
  • - ซื้อบ้าน เป็นการลงทุนระยะยาว แต่สามารถสร้างสินทรัพย์ให้ตัวเองได้ และถ้าเลือกซื้อในทำเลที่ดีมีแนวโน้มที่จะสร้างกำไรได้
    - เช่าบ้าน เหมาะกับคนที่ยังไม่มั่นใจเรื่องทำเล และไม่ต้องการที่จะมีภาระผูกพันระยะยาว แต่ก็จะไม่มีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง และค่าเช่าอาจจะเพิ่มขึ้นหรือถูกบังคับให้ย้ายออก หากเจ้าของบ้านต้องการขายหรือใช้งานเอง

    สามารถเลือกดูโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมน่าลงทุนที่คุ้มค่าน่าซื้อได้ที่แสนสิริ
SANSIRI ARENA แชมป์เปี้ยนดีล
ชีวิตปัง ได้ดีลดั่งใจ
จ่ายน้อย คุ้มมาก!!
ยูนิตบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม ราคาพิเศษ

คู่มืออสังหาฯยอดนิยม

  1. ดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 1.50% แล้วคนซื้อบ้านได้ประโยชน์อะไร อ่านเพิ่มเติม >


  1. ซื้อบ้านควรหันทิศไหนดี ทิศใต้หรือทิศเหนือตามฮวงจุ้ย อ่านเพิ่มเติม >


  1. ผ่อนคอนโดเดือนละ 3,000-5,000 ทำได้จริงหรือหลอก? | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >


  1. รวมมาตรการกระตุ้นซื้อบ้าน อสังหา 2568 ลดค่าโอน ดอกเบี้ยถูก | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >


  1. ส้วมตัน ชักโครกกดไม่ลง มีสาเหตุมาจากอะไร พร้อมวิธีแก้ส้วมตันด้วยตัวเอง อ่านเพิ่มเติม >