คนซื้อบ้าน คอนโด เฮได้ ธนาคารแห่งประเทศไทย ผ่อนคลาย มาตรการ LTV ชั่วคราว กู้ซื้อบ้านได้ 100% ในช่วงเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569 แถมยังพบความพิเศษกับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง เหลือเพียง 0.01% รู้อย่างนี้แล้วก่อนที่ไปจองบ้านคอนโด มาทำความเข้าใจความหมายของ มาตรการ LTV และเกณฑ์ที่กำหนดกันเลย
LTV ย่อมาจากคำว่า “Loan to Value” ซึ่งหมายถึง อัตราส่วนการให้สินเชื่อซื้อบ้านโดยเทียบกับมูลค่า ซึ่งมาตรการ LTV คือ มาตรการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กำหนดอัตราส่วนของวงเงินในการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย เพื่อลดอัตราความเสี่ยงให้กับธนาคารพาณิชย์ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ เป็นมาตรการในการกำหนดเงินดาวน์ขั้นต่ำ ซึ่ง LTV กับเงินดาวน์มักจะสวนทางกัน หาก LTV สูง เงินดาวน์จะต่ำ แต่ถ้า LTV ต่ำ เงินดาวน์จะสูง เป็นต้น
มาตรการ LTV เป็นมาตรการที่ออกแบบมาเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงลดความเสี่ยงต่อการเกิดหนี้เสีย ซึ่งเหตุผลหลักๆ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาตรการ LTV เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ช่วยควบคุมสินเชื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม กำหนดเพดานวงเงินกู้ให้เหมาะกับผู้กู้ เพื่อให้เศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยแก้ปัญหาการเก็งกำไรที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะการกู้ซื้อบ้านหรือคอนโดในสัญญาที่ 2 เป็นต้นไป ซึ่งอาจจะส่งผลให้หนี้เสีย (NPL) ในสินเชื่อบ้านมีแนวโน้มสูงขึ้น ประกอบกับการแข่งขันของสถาบันการเงิน ที่อาจปล่อยสินเชื่อที่เสี่ยงต่อการเกิดหนี้เสียในระบบ และอาจเพิ่มปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ถ้าหากไม่มีการควบคุมที่เหมาะสม ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเริ่มนำมาตรการ LTV มาใช้ตั้งแต่ปี 2562 และมีการปรับปรุงเป็นระยะตามสถานการณ์เศรษฐกิจ
สูตรคำนวณ LTV สามารถหาได้จาก: (จำนวนเงินกู้ / มูลค่าของบ้าน) x 100 = 80
ตัวอย่าง: นาย A ต้องการกู้เงินซื้อบ้านในราคา 2,000,000 บาทกับธนาคารแห่งหนึ่ง โดยธนาคารดังกล่าวปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยโดยมี LTV ในอัตราส่วนร้อยละ 80% นาย A จะได้รับอนุมัติวงเงินกู้เท่าไหร่?
มาตรการ LTV เคาะแล้ว! ธนาคารแห่งประเทศไทยผ่อนคลาย มาตรการ LTV ชั่วคราว กู้ซื้อบ้านได้ 100% ในช่วงเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับการกู้ร่วมตามมาตรการ LTV ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีการผ่อนปรนให้ผู้ที่เคยกู้ร่วม แต่ไม่มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย จะไม่ถูกนับว่าเป็นผู้กู้ในสัญญานั้น ๆ ส่งผลให้ผู้ที่ต้องการกู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์เป็นของตัวเอง ก็สามารถกู้ซื้อได้ โดยจะถูกพิจารณาว่าเป็นสัญญาที่ 1 ส่งผลให้สามารถขอสินเชื่อได้เต็มศักยภาพตามเกณฑ์ปกติ ซึ่งช่วยลดภาระและเอื้อให้ผู้ที่ต้องการมีบ้านของตัวเองเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายมากขึ้น
รายการ |
มาตรการเดิม |
มาตรการใหม่ |
---|---|---|
มาตรการ LTV สำหรับการกู้ร่วม |
การกู้ร่วมเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยจะถือเป็นการกู้ของทุกคน |
หากผู้กู้ร่วมไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย ให้ผ่อนปรนเสมือนว่ายังไม่เป็นผู้กู้ในครั้งนั้น |
แนวทางการนับสัญญา |
นับตาม “ผู้กู้ทุกคน” (ถ้าใครเคยมีบ้าน นับเป็นบ้านหลังถัดไปทันที) |
ไม่นับรวมทุกคน (พิจารณาเฉพาะผู้กู้หลักหรือผู้ถือกรรมสิทธิ์) |
ตัวอย่าง : A กับ B กู้ร่วมซื้อบ้าน โดยกรรมสิทธิ์เป็นของ A คนเดียว ต่อมา B ขอกู้ซื้อบ้านเป็นของตนเอง |
บ้านหลังที่ B ต้องการจะกู้นั้นจะถูกนับเป็นสัญญาที่ 2 ของ B |
ตัวอย่าง : A กับ B กู้ร่วมซื้อบ้าน โดยกรรมสิทธิ์เป็นของ A คนเดียว ต่อมา B ขอกู้ซื้อบ้านเป็นของตนเอง |
นอกจากการผ่อนปรนเกณฑ์มาตรการ LTV แล้ว ยังมีมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ ร่วมด้วยโดยการปรับลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมลง สำหรับการซื้อขายที่อยู่อาศัยที่มีราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์จากปกติ 2% จะลดเหลือเพียง 0.01% และลดค่าจดทะเบียนการจำนองสินเชื่อที่อยู่อาศัยจาก 1% เหลือ 0.01% เช่นกัน ซึ่งมาตรการ LTV นี้ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายแฝงให้กับผู้ซื้อบ้านได้
ตารางเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมหากซื้อบ้านราคา 3 ล้านบาท
รายการ |
มาตรการปกติ |
มาตรการผ่อนปรน (0.01%) |
---|---|---|
ค่าโอนกรรมสิทธิ์ |
60,000 บาท (2%) |
300 บาท |
ค่าจดจำนอง |
30,000 บาท (1%) |
300 บาท |
รวมค่าธรรมเนียม |
90,000 บาท |
600 บาท |
ส่วนต่างที่ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ |
- |
89,400 บาท |
นอกจากมาตรการ LTV ล่าสุด ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกเกณฑ์การผ่อนปรนแล้ว ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังได้ออกมาตรการและโครงการสนับสนุนอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อช่วยลดภาระและเปิดโอกาสให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ได้เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยหลังแรกได้ง่ายขึ้น
โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3 โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เป็นโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัย ที่มุ่งช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ให้มีบ้านเป็นของตนเอง ในราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท โดยมีการผ่อนปรนเกณฑ์การพิจารณาเป็นพิเศษ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อและช่วยให้การผ่อนชำระในช่วงแรกไม่หนักจนเกินไป ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญสำหรับผู้ที่ฝันอยากมีบ้านหลังแรก
เงื่อนไขสำคัญของโครงการ
* ระยะเวลาโครงการ: สามารถยื่นขอกู้ได้ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2568 หรือจนกว่าวงเงินโครงการจะหมด (ตรวจสอบรายละเอียดโครงการกับ ธอส. อีกครั้ง)
โครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” เป็นโครงการที่พักอาศัยราคาประหยัดที่พัฒนาโดย บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในเครือการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีเป้าหมายเพื่อนำที่ดินของการรถไฟฯ ทั่วประเทศมาพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยคุณภาพดี ในรูปแบบการเช่าซื้อระยะยาว เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนไทยตามนโยบายของรัฐบาล
คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้มีสิทธิ์จอง
เงื่อนไขสำคัญในการกู้ร่วมตามมาตรการ LTV คือ ผู้กู้ร่วมจะต้องมีความสัมพันธ์เป็นครอบครัวเดียวกันกับผู้กู้หลัก เช่น บิดามารดา คู่สมรส หรือบุตร โดยผู้กู้ร่วมทุกคนต้องมีแหล่งที่มาของรายได้ที่ชัดเจนและสามารถตรวจสอบได้ โดยสถาบันการเงินจะพิจารณาภาระหนี้สินโดยรวมของผู้กู้ทุกคนประกอบกัน เพื่อประเมินความสามารถในการผ่อนชำระ และอนุมัติวงเงินสินเชื่อที่เหมาะสมภายใต้เกณฑ์ที่กำหนด
นักลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบจากมาตรการ LTV โดยตรง เนื่องจากส่วนใหญ่มักเป็นการซื้อสัญญาที่สองเป็นต้นไป ทำให้ต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นหรือเงินดาวน์สูงขึ้นตามเกณฑ์ที่กำหนด มาตรการนี้จึงช่วยคัดกรองนักลงทุนที่มีความพร้อมทางการเงินจริง และลดการซื้อเพื่อเก็งกำไรในระยะสั้น ทำให้การตัดสินใจลงทุนต้องมีความรอบคอบและมุ่งหวังผลตอบแทนในระยะยาวมากกว่า ซึ่งช่วยสร้างเสถียรภาพให้แก่ตลาดอสังหาริมทรัพย์
มาตรการ LTV ที่มีการผ่อนคลายช่วยกระตุ้นยอดขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ได้ดี เพราะทำให้ผู้ซื้อตัดสินใจง่ายขึ้น แต่เมื่อมาตรการกลับมาเข้มงวด ตลาดก็มีแนวโน้มชะลอตัว โดยเฉพาะในกลุ่มที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงบน และผู้ซื้อเพื่อลงทุน ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับกลยุทธ์การขายและพัฒนาโครงการให้สอดคล้องกับกำลังซื้อที่แท้จริงมากขึ้น
สถาบันการเงินเป็นผู้บังคับใช้มาตรการ LTV ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการดำเนินงาน การมีเกณฑ์ LTV ที่ชัดเจน ช่วยให้ธนาคารสามารถบริหารความเสี่ยง และควบคุมคุณภาพของสินเชื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสการเกิดหนี้เสีย (NPL) ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มาตรการเข้มงวด อาจส่งผลให้ปริมาณการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยลดลงได้เช่นกัน
![]() กลุ่มคนที่ซื้อบ้านหลังแรก |
![]() กลุ่มคนที่ซื้อบ้านหลังที่ 2 |
![]() กลุ่มคนที่ซื้อบ้านหลังที่ 3 ขึ้นไป |
---|---|---|
มูลค่าบ้านน้อยกว่า 10 ล้านบาท กำหนดเงินดาวน์ขั้นต่ำ x% | สัญญากู้บ้านหลังที่ 2 ต้องวางเงินดาวน์ 10% หากผ่อนบ้านหลังที่ 1 มานานกว่าหรือเท่ากับ 2 ปี | สัญญากู้บ้านหลังที่ 3 ต้องวางเงินดาวน์ 20% หากผ่อนบ้านหลังที่ 1 มานานกว่า 2 ปี |
มูลค่าบ้านเกิน 10 ล้านบาทขึ้นไป กำหนดเงินดาวน์ขั้นต่ำ 10% |
|
มาตรการ LTV ฉบับใหม่ กำหนดให้กลุ่มคนที่กำลังผ่อนบ้านหลังแรกและหลังที่ 2 แต่ต้องการซื้อบ้านหลังที่ 3 ขึ้นไป จำเป็นต้องวางเงินดาวน์ 30% |
มาตรการ LTV ใช่ว่าจะมีแต่แง่มุมด้านลบต่อผู้ที่ต้องการกู้ซื้อบ้านอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังคงมีด้านดีที่หลายคนนึกไม่ถึงดังนี้
มาตรการ LTV เป็นเครื่องมือที่ช่วยคัดกรองความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ตั้งแต่แรก โดยการกำหนดให้มีเงินดาวน์ในสัดส่วนที่เหมาะสม เป็นการสร้างวินัยทางการเงินและลดความเสี่ยงที่ผู้กู้จะผิดนัดชำระหนี้ในอนาคต ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการลดลงของอัตราหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคารพาณิชย์ ทำให้พอร์ตสินเชื่อมีคุณภาพและสถาบันการเงินมีความมั่นคงยิ่งขึ้น
การกำหนดเพดานสินเชื่อผ่านมาตรการ LTV ช่วยชะลอการเก็งกำไรในภาคอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทำให้การกู้ยืม เพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์หลายแห่งพร้อมกัน ทำได้ยากขึ้น ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้ราคาอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้นจนเกินความเป็นจริงอย่างรวดเร็ว เป็นการลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะฟองสบู่แตก ที่อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมได้
มาตรการ LTV เอื้อประโยชน์ต่อผู้ซื้อบ้านที่มีความต้องการอยู่อาศัยจริง (Real Demand) โดยทางอ้อม เพราะเมื่อการเก็งกำไรในตลาดลดน้อยลง ราคาบ้านและคอนโดจะมีเสถียรภาพมากขึ้น ไม่ผันผวนหรือดีดตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากการปั่นราคา ทำให้ผู้ที่มองหาบ้านหลังแรกหรือบ้านสำหรับครอบครัว สามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ในระดับราคาที่สมเหตุสมผลและสอดคล้องกับมูลค่าที่แท้จริง
มาตรการ LTV ทำหน้าที่เป็นมาตรฐานกลาง ในการพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงิน ช่วยให้การอนุมัติสินเชื่อเป็นไปอย่างรอบคอบและมีคุณภาพมากขึ้น เป็นการป้องกันการแข่งขันการให้สินเชื่อระหว่างธนาคารที่อาจนำไปสู่การผ่อนปรนเงื่อนไขมากเกินไป จนเกิดเป็นสินเชื่อที่ด้อยคุณภาพ มาตรการนี้จึงช่วยรักษามาตรฐานและสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบธนาคารในภาพรวม
เป้าหมายของมาตรการ LTV คือการดูแลเสถียรภาพของระบบการเงินในระยะยาว โดยการควบคุมการเติบโตของสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ป้องกันความเสี่ยงเชิงระบบที่อาจลุกลามจากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ ไปสู่ภาคการเงินทั้งหมด การมีมาตรการ LTV ช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างยั่งยืนและมีความสามารถในการรับมือกับความผันผวนได้ดีขึ้น
แสนสิริฟันธง ปีนี้ดีที่สุดสำหรับคนอยากมีบ้าน! ร่วมไขข้อข้องใจ มาตราการผ่อนคลาย LTV คืออะไร ค่าโอนและจดจำนองลดลงเท่าไหร่ เรามีคำตอบและความรู้ดีๆ มาฝากกันค่ะ??
#TikTokUni #TikTokความรู้ #TikTokอสังหา #ลดค่าโอนจดจำนอง #เรื่องจริงINHOUSE #Sansiri
มาตรการ LTV คือ เครื่องมือสำคัญ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยใช้กำกับดูแลสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ ผ่านการกำหนดอัตราส่วนวงเงินกู้ต่อมูลค่าหลักประกัน หรือเงินดาวน์ขั้นต่ำ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อป้องกันการเก็งกำไรที่เกินควร ลดความเสี่ยงหนี้เสีย (NPL) และรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจในภาพรวม ขณะเดียวกัน มาตรการ LTV ล่าสุด ได้มีการปรับปรุงและผ่อนปรนตามสถานการณ์ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ต้องการมีบ้านเพื่ออยู่อาศัยจริงให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น นับเป็นมาตรการสำคัญที่มีผลต่อทุกภาคส่วนในวงการอสังหาริมทรัพย์
สำหรับใครที่กำลังมองหาบ้านหลังแรก หรือกำลังวางแผนซื้อที่อยู่อาศัยเพื่ออยู่จริง มาตรการ LTV ล่าสุด ถือเป็นมาตรการที่ช่วยให้คุณมีบ้านได้ง่ายขึ้น ซึ่ง แสนสิริมีโครงการให้เลือกหลากหลาย ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม หรือคอนโดมิเนียม บนทำเลศักยภาพทั่วประเทศ พร้อมข้อเสนอพิเศษที่ช่วยให้คุณเข้าถึงบ้านในฝันได้ง่ายขึ้น
Q :
A :
ธนาคารจะอ้างอิงวงเงินกู้ตาม ราคาที่ต่ำกว่า ระหว่างราคาซื้อขายกับราคาประเมิน เพื่อความปลอดภัยทางการเงิน
Q :
A :
เกณฑ์นี้ไม่มีผลย้อนหลังกับผู้กู้ที่ได้ทำสัญญากู้ไปแล้ว
Q :
A :
เกณฑ์นี้ใช้ได้กับทั้งสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs)
Q :
A :
LTV จะคำนวณตาม ราคาประเมินบ้านกับจำนวนวงเงินกู้รวม ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้กู้
Q :
A :
มีผลในบางกรณี โดยเฉพาะถ้ามีการกู้เพิ่มวงเงิน (Top-up) เพราะธนาคารจะพิจารณาอัตรา LTV ของสินเชื่อใหม่ร่วมด้วย
ดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 1.50% แล้วคนซื้อบ้านได้ประโยชน์อะไร อ่านเพิ่มเติม >
ซื้อบ้านควรหันทิศไหนดี ทิศใต้หรือทิศเหนือตามฮวงจุ้ย อ่านเพิ่มเติม >
ผ่อนคอนโดเดือนละ 3,000-5,000 ทำได้จริงหรือหลอก? | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >
รวมมาตรการกระตุ้นซื้อบ้าน อสังหา 2568 ลดค่าโอน ดอกเบี้ยถูก | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >
ส้วมตัน ชักโครกกดไม่ลง มีสาเหตุมาจากอะไร พร้อมวิธีแก้ส้วมตันด้วยตัวเอง อ่านเพิ่มเติม >
ผ่อนคอนโดกี่ปี เงินเดือนเท่านี้ผ่อนคอนโดล้านละเท่าไหร่ ผ่อนคอนโด เดือนละ 3,000 ได้จริงไหม คอนโด 2 ล้านผ่อนเดือนละเท่าไหร่ ทุกคำถาม แสนสิริมีคำตอบ
บ้านควรหันทิศไหนดี ทิศใต้หรือทิศเหนือตามฮวงจุ้ย ที่จะช่วยให้อยู่แล้วปัง อยู่แล้วสบายทั้งครอบครัว มีทิศไหนบ้าง ต้องรีบไปดูกัน
ผ่อนดาวน์คอนโดคืออะไร ซื้อคอนโดดาวน์เท่าไหร่ให้หมดไว จำนวนเงินที่ต้องกู้กับธนาคารเมื่อดาวน์คอนโด ขั้นต่ำเป็นเท่าไหร่ วันนี้รู้กัน
ผ่อนคอนโดกี่ปี เงินเดือนเท่านี้ผ่อนคอนโดล้านละเท่าไหร่ ผ่อนคอนโด เดือนละ 3,000 ได้จริงไหม คอนโด 2 ล้านผ่อนเดือนละเท่าไหร่ ทุกคำถาม แสนสิริมีคำตอบ
บ้านควรหันทิศไหนดี ทิศใต้หรือทิศเหนือตามฮวงจุ้ย ที่จะช่วยให้อยู่แล้วปัง อยู่แล้วสบายทั้งครอบครัว มีทิศไหนบ้าง ต้องรีบไปดูกัน
ดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 1.50% แล้วคนซื้อบ้านได้ประโยชน์อะไร อ่านเพิ่มเติม >
ซื้อบ้านควรหันทิศไหนดี ทิศใต้หรือทิศเหนือตามฮวงจุ้ย อ่านเพิ่มเติม >
ผ่อนคอนโดเดือนละ 3,000-5,000 ทำได้จริงหรือหลอก? | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >
รวมมาตรการกระตุ้นซื้อบ้าน อสังหา 2568 ลดค่าโอน ดอกเบี้ยถูก | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >
ส้วมตัน ชักโครกกดไม่ลง มีสาเหตุมาจากอะไร พร้อมวิธีแก้ส้วมตันด้วยตัวเอง อ่านเพิ่มเติม >