รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ลงทะเบียนอย่างไร ใช้บัตรอะไร ไปได้กี่สถานี

ในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง การเดินทางกลายเป็นหนึ่งในรายจ่ายสำคัญของคนเมือง รัฐบาลจึงเดินหน้านโยบาย "รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย" เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน พร้อมส่งเสริมให้คนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น นโยบายนี้ไม่เพียงแค่ช่วยให้การเดินทางสะดวกมากขึ้นในราคาที่เข้าถึงได้ แต่ยังเป็นการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มอสังหาฯ บ้านใกล้รถไฟฟ้า คอนโดใกล้รถไฟฟ้า อีกด้วย

คอนโดกรุงเทพ โครงการคอนโดใหม่ 2568 ติดรถไฟฟ้า BTS MRT ARL

รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย คืออะไร?

“รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” เป็นนโยบายที่ภาครัฐต้องการลดค่าครองชีพให้กับภาคประชาชน พร้อมกระตุ้นและสนับสนุนให้ประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะแทนการใช้รถยนต์ส่วนตัว เพื่อช่วยลดมลภาวะและวางรากฐานสำหรับตั๋วร่วมในอนาคต โดยผู้โดยสารทุกคนที่มีบัตรประชาชนไทยจะสามารถใช้งานรถไฟฟ้าในราคา 20 บาทได้ตลอดสาย ทุกสี ทุกเส้นทาง

รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เริ่มใช้เมื่อไหร่?

• ผู้มีสิทธิลงทะเบียนและใช้รถไฟฟ้า 20 บาท: จำกัดเฉพาะบุคคลที่มีเลขบัตรประชาชนไทย 13 หลักเท่านั้น นักท่องเที่ยวต่างชาติจะไม่ได้รับสิทธิตามนโยบายนี้
• ช่วงเวลาลงทะเบียน: เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป ผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" โดยไม่มีการจำกัดจำนวนสิทธิ
• เริ่มใช้สิทธิ: สามารถเริ่มใช้สิทธิรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป (อัพเดตข้อมูล ณ วันที่ 28 สิงหาคม นโยบาย “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 15 พฤศจิกายน 2568)
• ข้อมูลที่ต้องใช้: หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน และข้อมูลของบัตรโดยสาร (บัตรแรบบิท หรือ บัตร EMV) ที่ต้องการผูกเพื่อรับสิทธิ
• การใช้งาน: หากมีการเดินทางข้ามสาย ระหว่างระบบที่ใช้บัตรต่างกัน (เช่น BTS และ MRT) ในระยะแรกอาจต้องใช้บัตร 2 ใบ แต่ระบบจะคำนวณค่าโดยสารรวมสูงสุดไม่เกิน 20 บาท สำหรับการเดินทางเที่ยวเดียว
• ข้อควรรู้: สำหรับผู้ที่ไม่ได้ลงทะเบียน หรือไม่ได้ใช้บัตรที่ผูกสิทธิไว้ จะต้องชำระค่าโดยสารในอัตราปกติ การเตรียมบัตรให้พร้อม เพื่อการรับสิทธิรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ควรเตรียมให้พร้อม

เช็กเส้นทางรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย มีสีอะไรบ้าง

หากใครไม่อยากรอเดือนกันยายน 2568 ได้ใช้รถไฟฟ้าในราคา 20 บาท ปัจจุบันก็มีรถไฟฟ้า 2 สาย ที่เปิดให้บริการแล้วตั้งแต่เดือนเมษายน 2568 คือ

1. รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - คลองบางไผ่ (ราคา 20 บาทตลอดสาย)

สถานีที่เปิดให้บริการ: คลองบางไผ่, ตลาดบางใหญ่, บางพลู, บางรักใหญ่, บางรัก, น้อยท่าอิฐไทนป่า, สะพานนั่งเกล้า, แยกนนทบุรี, บางกระสอ, ศูนย์ราชการนนทบุรี, กระทรวงสาธารณสุข, แยกติวานนท์, วงศ์สว่าง, บางซ่อน และเตาปูน

2. รถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ - รังสิต และ บางซื่อ - ตลิ่งชัน (ราคา 20 บาทตลอดสาย)

สถานีที่เปิดให้บริการ: แบ่งออกเป็น 2 เส้นทางคือ

• เส้นทางที่ 1 รถไฟฟ้าชานเมือง สายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์ - รังสิต) : บางซื่อ, จตุจักร, วัดเสมียนนารี, บางเขน, ทุ่งสองห้อง, หลักสี่, การเคหะฯ, ดอนเมือง, หลักหก และรังสิต
• เส้นทางที่ 2 สายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์ - ตลิ่งชัน) : บางซื่อ, บางซ่อน, สะพานพระราม 6, บางกรวย-กฟผ. , บางบำหรุ และตลิ่งชัน

ส่วนรถไฟฟ้าสายอื่นๆ ที่จะได้เริ่มใช้บริการในราคา 20 บาทตลอดสาย ในวันที่ 30 กันยายน 2568 มีทั้งหมด 6 สายคือ

1. สายสีเขียว
2. สายสีทอง
3. สายสีเหลือง
4. สายสีชมพู
5. สายสีน้ำเงิน
6. แอร์พอร์ต เรล ลิงก์

รถไฟฟ้า 20 บาท ใช้บัตรอะไรได้บ้าง?

การใช้สิทธิรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จำเป็นต้องใช้บัตรโดยสารที่รองรับ และต้องมีการลงทะเบียนผูกสิทธิผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" ก่อนใช้งาน โดยบัตรที่สามารถใช้กับโครงการ รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ได้ มีดังนี้

1. บัตรแรบบิท (Rabbit Card)

   บัตรแรบบิท เป็นบัตรเติมเงินอิเล็กทรอนิกส์ ที่ใช้สำหรับชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้า BTS เป็นหลัก และยังสามารถใช้จ่ายตามร้านค้าที่ร่วมรายการได้อีกด้วย ซึ่งการลงทะเบียนรับสิทธิรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น สามารถใช้บัตรแรบบิทได้ แต่ต้องเป็นบัตรแรบบิทชนิด ABT (Account based Ticketing) เท่านั้น ซึ่งก็คือบัตรแรบบิทที่ผูกบัญชีเข้ากับ Rabbit LINE Pay หรือ Rabbit Wallet อยู่แล้ว สำหรับใครที่ถือบัตร Rabbit เดิม สามารถผูกเป็นบัตร ABT ได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน My Rabbit ระบบนี้จะช่วยให้ข้อมูลการเดินทางถูกบันทึกและประมวลผลค่าโดยสารในอัตราพิเศษของโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ได้อย่างถูกต้อง

   
   

   ข้อควรรู้: บัตรแรบบิทจะครอบคลุมการเดินทางในเส้นทางรถไฟฟ้า BTS (สายสีเขียว, สายสีทอง), รถไฟฟ้าสายสีเหลือง และรถไฟฟ้าสายสีชมพู หากต้องการเดินทางข้ามไปยังระบบ MRT, ARL หรือสายสีแดง อาจจำเป็นต้องใช้บัตรประเภทอื่นร่วมด้วย เพื่อให้ได้รับสิทธิรถไฟฟ้า 20 บาท

   
   

2. บัตร EMV (บัตรเครดิต/เดบิต)

   บัตร EMV (Europay, Mastercard, and VISA) คือบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตที่มีสัญลักษณ์ Contactless (รูปคลื่นคล้ายสัญลักษณ์ Wi-Fi) ซึ่งสามารถใช้แตะเข้า-ออกสถานีรถไฟฟ้าได้อัตโนมัติ โดยไม่ต้องซื้อตั๋วโดยสาร บัตร EMV เป็นอีกทางเลือกที่สะดวกสบายในการใช้งานสำหรับโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งสถานีรถไฟฟ้าที่รองรับบัตร EMV มีดังนี้

   
   
   

   รถไฟฟ้า MRT (สายสีน้ำเงิน, ม่วง, เหลือง, ชมพู)

   • บัตรเครดิต : บัตรที่มีสัญลักษณ์ VISA และ Mastercard ทุกธนาคาร และ UnionPay (เฉพาะธนาคารกรุงเทพ, ICPC, AEON และ KTC)
   • บัตรเดบิต : บัตรที่มีสัญลักษณ์ VISA และ Mastercard ธนาคารกรุงไทย, UOB, กรุงศรีอยุธยา, ไทยพาณิชย์ และธนาคารกสิกรไทย
   • บัตร Prepaid : บัตรที่มีสัญลักษณ์ VISA และ Mastercard เช่น YouTrip บัตร Play ของเป๋าตังเปย์ และบัตร Krungsri Boarding Card

   
   รถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดง

   สำหรับรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดง สามารถใช้ได้ทั้งบัตรเครดิตและบัตรเดบิตของทุกธนาคารที่มีสัญลักษณ์ Contactless (รูปคลื่นคล้ายสัญลักษณ์ Wi-Fi)

   
   

3. บัตร Mangmoom EMV

   บัตรแมงมุม (Mangmoom Card) คือ บัตรโดยสารร่วมระบบตั๋วเดียว ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้เดินทางข้ามระบบรถไฟฟ้าหลายสายได้ในบัตรเดียว ทำหน้าที่เป็นบัตรเติมเงินเพื่อความสะดวกในการเดินทาง สำหรับนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย บัตร Mangmoom EMV ถือเป็นทางเลือกสำคัญสำหรับผู้ที่ไม่มีบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตที่รองรับ โดยเราสามารถติดต่อขอซื้อบัตรนี้ได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารของรถไฟฟ้า MRT ทุกสถานี จากนั้นจึงนำไปลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมโครงการ และใช้เดินทางในเครือข่ายรถไฟฟ้าที่รองรับ

   
   

4. บัตร MRT EMV

   สำหรับผู้ที่ใช้บัตรโดยสารแบบ MRT EMV ก็สามารถนำบัตร MRT EMV มาลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายได้ผ่านแอปฯ “ทางรัฐ” โดยระบบจะทำการเชื่อมข้อมูลบัตรเข้ากับสิทธิตามนโยบาย ทำให้เมื่อเดินทางในเส้นทางที่เข้าร่วมโครงการ ค่าโดยสารจะถูกปรับลดลงเหลือสูงสุด 20 บาทโดยอัตโนมัติ ถือเป็นอีกทางเลือกที่สะดวกสำหรับผู้ใช้บริการ MRT เป็นหลักในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า

ตารางสรุปบัตรที่ใช้ได้กับโครงการรถไฟฟ้า 20 บาท ลงทะเบียนบัตรไหนคุ้มที่สุด?

วิธีลงทะเบียน รับสิทธิรถไฟฟ้า 20 บาท ทำอย่างไร?

1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ได้ทั้ง IOS และ Android
2. ลงทะเบียนยืนยันตัวตน ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” โดยใช้เลขบัตรประชาชน 13 หลัก
3. ผูกบัญชีธนาคารหรือบัตรที่ใช้ชำระเงิน อาทิ บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัตรโดยสาร Rabbit Card
4. กรอกข้อมูลตามเงื่อนไขให้ครบ
5. เปิดให้ลงทะเบียนใช้สิทธิรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ได้ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2568 ผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" เพียงช่องทางเดียว

ทั้งนี้สำหรับคนที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐแล้ว จะสามารถเริ่มใช้สิทธิเดินทางในอัตราค่าโดยสาร รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป แต่ถ้าไม่ได้ลงทะเบียน หรือไม่ได้ผูกใช้งานกับบัตรที่ลงทะเบียนไว้ จะต้องจ่ายอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าตามปกติ อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 28 สิงหาคม นโยบาย “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” ที่เดิมจะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ได้ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 เนื่องจากยังต้องรอการพิจารณาและประกาศใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ที่มา: ฐานเศรษฐกิจ

ผูกบัตร Rabbit อย่างไร?

ขั้นตอนการผูกบัตรแรบบิทเพื่อรับสิทธิ รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ผ่านแอปฯ "ทางรัฐ" มีดังนี้

1. ดาวน์โหลดและลงทะเบียนแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ"
2. ระบบปฏิบัติการ iOS: ค้นหา “ทางรัฐ” บน App Store แอปทางรัฐ
3. ระบบปฏิบัติการ Androids: ค้นหา “ทางรัฐ” บน Google Play แอปทางรัฐ
4. เข้า “ทางรัฐ” จากนั้นกดที่ Banner “ลงทะเบียนผูกบัตรรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย”
   หรือไปที่เมนู "บริการ > บริการแนะนำ > เลือกโครงการ "รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย" กดอนุญาต
5. หน้าจอจะแสดงข้อมูลรายละเอียดการลงทะเบียน เมื่ออ่านรายละเอียดครบถ้วนแล้วกด “ถัดไป”
6. ศึกษาข้อกำหนด และเงื่อนไขความเป็นส่วนตัวให้ละเอียด รอบคอบ เมื่ออ่านเรียบร้อยแล้วให้ติ๊กถูก และกดยอมรับ
7. อนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลที่ตั้ง ผู้ลงทะเบียนสามารถเลือกได้ว่าจะอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลที่ตั้งเพียงครั้งเดียว หรืออนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลที่ตั้งระหว่างการใช้แอปพลิเคชันได้
8. เริ่มต้นผูกบัตร Rabbit ที่มีฟังก์ชัน ABT โดยกดที่ “ผูกบัตรแรบบิท”
9. กรอกข้อมูลหมายเลขบนบัตรแรบบิท และที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน แล้วกด “ผูกบัตรแรบบิท”
10. กดยืนยัน เพื่อทำการผูกบัตรแรบบิท
11. หลังจากกด ยืนยัน ระบบจะแสดงผลการลงทะเบียน เพื่อรับสิทธิรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย โดยระบบจะทำการแสดงผลว่า “ผูกบัตรสำเร็จ”

ผูกบัตร EMV Contactless อย่างไร?

ขั้นตอนการผูกบัตร EMV (เครดิต/เดบิต) เพื่อรับสิทธิรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย มีขั้นตอนดังนี้

1. ดาวน์โหลดและลงทะเบียนแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ"
2. ระบบปฏิบัติการ iOS: ค้นหา “ทางรัฐ” บน App Store แอปทางรัฐ
3. ระบบปฏิบัติการ Androids: ค้นหา “ทางรัฐ” บน Google Play แอปทางรัฐ
4. เข้า “ทางรัฐ” จากนั้นกดที่ Banner “ลงทะเบียนผูกบัตรรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย”
   หรือไปที่เมนู "บริการ > บริการแนะนำ > เลือกโครงการ "รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย" กดอนุญาต
5. หน้าจอจะแสดงข้อมูลรายละเอียดการลงทะเบียน เมื่ออ่านรายละเอียดครบถ้วนแล้วกด “ถัดไป”
6. ศึกษาข้อกำหนด เมื่ออ่านเรียบร้อยแล้วให้ติ๊กถูก และกดยอมรับ
7. อนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลที่ตั้ง ผู้ลงทะเบียนสามารถเลือกได้ว่าจะอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลที่ตั้งเพียงครั้งเดียว หรืออนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลที่ตั้งระหว่างการใช้แอปพลิเคชันได้
8. เริ่มต้นผูกบัตร EMV Contactless โดยกดที่ “ผูกบัตร EMV Contactless”
9. กรอกข้อมูลของบัตร EMV Contactless และที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน แล้วกด “ผูกบัตร EMV”
10. กด “ยืนยันการผูกบัตร EMV Contactless”
11. หลังจากกดยืนยัน ระบบจะส่ง OTP เพื่อเข้ายืนยันการผูกบัตร
12. หลังจากยืนยัน OTP ระบบจะแสดงผลการลงทะเบียนว่าผูกบัตรสำเร็จหรือไม่

* สำหรับบัตรบางธนาคาร จะมีการตัดเงินจำนวน 1 บาท เพื่อยืนยันสถานะบัตร ตามมาตรฐานความปลอดภัย แต่จะมีการคืนให้ภายในระยะเวลาที่บัตรนั้น ๆ กำหนด

รวมมาตรการกระตุ้นซื้อบ้าน อสังหา 2568 ลดค่าโอน ดอกเบี้ยถูก

รูปแบบการชำระเงิน รถไฟฟ้า 20 บาท

การชำระเงินรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบคือ

1. บัตร Rabbit สามารถใช้ชำระค่าเดินทางได้ 4 สาย คือ สายสีเขียว สายสีทอง สายสีชมพู และสายสีเหลือง

2. บัตร EMV Contactless หรือบัตรเครดิต Visa / Mastercard สามารถใช้ชำระค่าเดินทางได้ 6 สาย คือ สายสีแดง สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง สายสีชมพู สายสีเหลือง และแอร์พอร์ต เรล ลิงก์

เงื่อนไขการการชำระเงินรถไฟฟ้า รถไฟฟ้าทุกสายจะมีค่าโดยสูงสุดอยู่ที่ 20 บาท กรณีมีการเปลี่ยนแปลงสายการเดินทาง ค่าโดยสารทั้งหมดจะสายแค่ 20 บาทเช่นกัน และหากสถานีไหนมีค่าโดยสารไม่ถึง 20 บาท จะเสียค่าบริการในอัตราปกติ

หากต้องการยกเลิกการผูกบัตร Rabbit ต้องทำอย่างไร?

หากต้องการเปลี่ยนบัตรแรบบิทที่ใช้รับสิทธิรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย สามารถยกเลิกการผูกบัตร Rabbit ได้ดังนี้

1. เข้าหน้าหลักของแอปพลิเคชัน ทางรัฐ
2. ไปที่ โครงการลงทะเบียนรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย
3. กดที่ “จัดการบัตรแรบบิท”
4. กดที่ “ยกเลิกการผูกบัตรแรบบิท”
5. กดที่ “ยืนยัน” เพื่อให้การยกเลิกเสร็จสมบูรณ์

หากต้องการยกเลิกการผูกบัตร EMV Contactless ต้องทำอย่างไร?

หากต้องการเปลี่ยนบัตรแรบบิทที่ใช้รับสิทธิรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย สามารถยกเลิกการผูกบัตร Rabbit ได้ดังนี้

1. เข้าหน้าหลักของแอปพลิเคชัน ทางรัฐ
2. ไปที่ โครงการลงทะเบียนรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย
3. กดที่ “จัดการบัตร EMV”
4. กดที่ “ยกเลิกการผูกบัตร EMV”
5. กดที่ “ยืนยัน” เพื่อให้การยกเลิกเสร็จสมบูรณ์

รวมโครงการใหม่ บ้าน คอนโด ได้ใช้บริการรถไฟฟ้า 20 บาท

บ้านใกล้รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวอ่อน (คูคต - เคหะฯ)

1. สราญสิริ จตุโชติ

บ้านที่เป็นมากกว่าพื้นที่พักผ่อน เติมเต็มความสะดวกสบายรอบด้าน กับบ้านใกล้รถไฟฟ้า BTS สายหยุด ทำให้เดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวกยิ่งขึ้น ประกอบกับยังใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ถนนกาญจนาภิเษก เข้าถึงรามอินทรา ลาดพร้าว และพหลโยธินได้สะดวกสบาย

จุดเด่นโครงการ: เป็นบ้านเดี่ยวที่ยังโดดเด่นด้วยการออกแบบโครงการภายใต้แนวคิด “Urban Farmhouse” ที่ได้แรงบันดาลใจจากการออกเดินทางไปเก็บเกี่ยว ดื่มด่ำความร่มรื่นของธรรมชาติ ทำให้บรรยากาศภายในโครงการเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย ตอบโจทย์ครอบครัวหรือคู่รักต้องการพักผ่อนอย่างแท้จริง

แบบบ้าน: แบบบ้านสไตล์ Urban Farmhouse พร้อมฟังก์ชันอัดแน่นทุกตร.ม.

2. บุราสิริ จตุโชติ

This Is Peace บ้าน...เพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง เงียบ สงบ แต่ปักหมุดอยู่ในทำเลเชื่อมต่อการเดินทาง ติดทางด่วนจตุโชติ และเป็นบ้านใกล้รถไฟฟ้า BTS สายหยุด

จุดเด่นโครงการ: ดื่มด่ำบรรยากาศความสงบ ร่มรื่น แบบคลาสสิก กับการออกแบบโครงการและบ้านภายใต้แนวคิด New England ล้อมรอบไปด้วยพื้นที่สวนสีเขียว ตัดกับสถาปัตยกรรมคลับเฮาส์ ตัวบ้านในโทนสีขาว

แบบบ้าน: บ้านเดี่ยวสไตล์ New England

บ้านใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง (เตาปูน - บางคลองไผ่)

3. อณาสิริ รัตนาธิเบศร์

ความพอดีที่ลงตัว เหมาะกับคนที่มองหาบ้านใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการทั้งตัวเองและสมาชิกครอบครัว บนทำเลเดินทางสะดวกใกล้ MRT สถานีบางพลูและเซ็นทรัล เวสต์เกต เพียง 5 นาที พร้อมเชื่อมต่อถนนหลัก 4 เส้นทาง รัตนาธิเบศร์, ราชพฤกษ์, กาญจนาภิเษก และชัยพฤกษ์

จุดเด่นโครงการ: ความเรียบง่ายแบบพอดี คือ ความลงตัวของแบบบ้านบ้านเดี่ยว บ้านแฝด สไตล์ Lagom เน้นฟังก์ชันในทุกพื้นที่ เพื่อให้ทุกวันของครอบเต็มไปด้วยความสุขในการอยู่อาศัย

แบบบ้าน: บ้านแฝด (แยกผนัง) และบ้านเดี่ยว สไตล์ Lagom

คอนโดใกล้รถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท

4. เดอะ มูฟ ประดิพัทธ์

มูฟชีวิต ให้อินสไปร์ไม่มีหยุด กับคอนโดไม่เกิน 3 ล้าน คอนโดใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีสะพานควาย เพียง 500 เมตร สะดวกสบายต่อการเดินทางไปทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ

จุดเด่นโครงการ: ปลดปล่อยไอเดียสร้างสรรค์ไปกับคอนโด Low Rise ใจกลางเมือง ย่านที่รวบรวมไลฟ์สไตล์สุดชิค ช่วยต่อยอดไอเดียไม่หยุดยั้ง กับดีไซน์ที่สามารถปรับแต่งตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้อย่างลงตัว

รูปแบบห้องชุด: ห้องตกแต่งพร้อมอยู่ Fully Furnished มีให้เลือกทั้ง 1 Bedroom, 1 Bedroom (Plus), 2 Bedroom และห้อง Combine Unit

5. เวีย 61

Unveil Your Living Serenity ให้ความวุ่นวาย อยู่ได้แค่ภายนอก กับคอนโดหรู เลี้ยงสัตว์ได้ ใจกลางสุขุมวิท บนทำเลครบ จบ เรื่องความสะดวกสบายรอบด้าน

จุดเด่นโครงการ: ใส่ใจทุกรายละเอียด กับคอนโดหรู Low Rise ที่สะท้อนคาแรกเตอร์ความเป็น Hidden Gem ใจกลางสุขุมวิท 61 กับความเงียบสงบของคอนโดใจกลางเมืองที่ทุกคนถามหา ด้วยจำนวนยูนิตที่น้อย ทั้งโครงการมีเพียง 61 ยูนิต โอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางครบครัน เป็นส่วนตัว

รูปแบบห้องชุด: เลือกห้องให้เหมาะกับตนเองกับ 6 แบบห้องชุด อาทิ 1 Bedroom, 2 Bedroom, 3 Bedroom ไปจนถึง Penthouse

คอนโดใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน

6. เดอะ เบส รัชดา 19

เติมเต็มชีวิตให้มีสีสัน ใจกลางรัชดา กับคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ บนทำเลเดินทางสะดวกใกล้ทั้งรถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าว และ BTS ห้าแยกลาดพร้าว

จุดเด่นโครงการ: เปิดมิติใหม่กับชีวิตที่แตกต่าง กับคอนโด Low Rise เลี้ยงสัตว์ได้ ใจกลางรัชดา ย่านที่ไม่เคยหลับใหล สามารถสร้างสรรค์ Activity ใหม่ๆ ได้ทุกวัน กับการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางครบครัน ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยและสัตว์เลี้ยง

รูปแบบห้องชุด: มีห้องให้เลือกถึง 4 แบบ ตอบโจทย์ฟังก์ชันหลากหลาย ตั้งแต่ 1 ห้องนอน ไปจนถึง 1 ห้องนอน (Plus) กับห้องหน้ากว้าง ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

ที่มา: รฟม., Thaipbs, กรมประชาสัมพันธ์