โดย อารยา ศิริพยัคฆ์
อัปเดต :  01/08/2025
จำนองบ้าน จำนองที่ดินคืออะไร ขายฝากกับจํานอง ต่างกันอย่างไร | แสนสิริ

หากเอ่ยถึงการนำทรัพย์สิน ประเภทอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน คอนโด ที่ดิน หรือ รถ ไปเป็นหลักทรัพย์เพื่อแลกกับเงินก้อน คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าเป็นการทำนิติกรรมในรูปแบบของการจำนอง และบ้างก็เข้าใจว่าเป็นรูปแบบของการขายฝาก เพราะดูเหมือนว่านิติกรรมทั้ง 2 รูปแบบนี้มีลักษณะ วิธีการ ขั้นตอนที่คล้ายคลึงกัน จนคนส่วนใหญ่แยกไม่ออก และทำให้เกิดความสับสน เมื่อถึงยามจำเป็นที่ต้องเลือกทำนิติกรรมทั้ง 2 รูปแบบ เหตุนี้จึงต้องแจกแจงให้เห็นถึงความแตกต่าง พร้อมเผยถึงจุดเด่น จุดด้อย ของนิติกรรมแต่ละรูปแบบทั้งการขายฝากและการจำนอง


Highlight





จำนอง คืออะไร?

จำนองคืออะไร

การจำนอง เป็นการทำนิติกรรมอีกรูปแบบหนึ่ง ในลักษณะของการนำทรัพย์สินมาเป็นประกันการชำระหนื้ โดยทรัพย์สินที่สามารถนำมาจำนอง เป็นได้ทั้งทรัพย์สิน ประเภทอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน คอนโด ที่ดิน หรือ ทรัพย์สิน ประเภทสังหาริมทรัพย์ที่มีทะเบียน เฉพาะที่กฎหมายกำหนดให้นำมาจำนองได้ เช่น รถยนต์ หรือ เครื่องจักร เป็นต้น โดยในการจำนองทรัพย์สินทุกประเภท จะต้องนำสัญญาจำนองไปจดทะเบียนด้วย ซึ่งในกรณีทรัพย์สินที่จำนองเป็นอสังหาริมทรัพย์ ให้จดทะเบียน ณ สำนักงานที่ดินที่มีเขตอำนาจ และในกรณีสังหาริมทรัพย์ ให้จดทะเบียน ณ สำนักทะเบียน ซึ่งรับผิดชอบงานจดทะเบียนสังหาริมทรัพย์ชนิดนั้น ๆ


ทั้งนี้ ผู้จำนองไม่จำเป็นต้องส่งมอบทรัพย์สินที่จำนองและยังคงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินที่จำนอง จึงมีสิทธิใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินที่จำนองต่อไปได้ แต่หากมีการผิดนัดชำระหนี้ที่มีการจำนองเป็นประกันแล้ว ผู้รับจำนองมีสิทธิฟ้องบังคับชำระหนี้และบังคับคดีกับทรัพย์สินที่จำนองได้ตามกฎหมาย

นอกจากนี้ ในกรณีที่ผู้จำนองได้จำนองทรัพย์สินเพื่อประกันการชำระหนี้ของตนเอง และมีข้อตกลงว่าจะชำระหนี้จนครบถ้วนหากบังคับจำนองแล้วได้เงินไม่เพียงพอ ผู้จำนองมีหน้าที่ต้องชำระเงินเพิ่มเติมให้แก่ผู้รับจำนองจนกว่าจะครบถ้วนต่อไป แม้จะถูกบังคับคดีเอากับทรัพย์สินที่จำนองแล้วก็ตาม




ทรัพย์สินที่ทำสัญญาจำนองได้มีอะไรบ้าง?

สัญญาจำนองเป็นวิธีการกู้เงินโดยใช้ทรัพย์สินมาเป็นหลักค้ำประกัน เมื่อผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามสัญญา ผู้รับจำนองมีสิทธิ์ในการยึดทรัพย์สินที่นำมาจำนองไว้ เพื่อนำไปขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ ซึ่งทรัพย์สินที่สามารถนำมาทำสัญญาจำนองได้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้


  1. อสังหาริมทรัพย์

  • การจำนองที่ดิน คือ ทรัพย์สินที่สำคัญที่สุด สามารถนำมาจำนองได้ทั้งที่ดินเปล่า ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง โดยต้องมีโฉนดที่ดินหรือหนังสือสำคัญกรรมสิทธิ์ที่ถูกต้อง
  • บ้าน อาคารที่พักอาศัย สามารถนำมาจำนองได้ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม โดยต้องมีโฉนดที่ดินหรือหนังสือสำคัญกรรมสิทธิ์ที่ถูกต้อง แต่ในกรณีที่เป็นคอนโดมิเนียมจะต้องมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจอาคารด้วย
  • อาคารพาณิชย์ หมายถึงอาคารที่ใช้ประกอบธุรกิจ สามารถนำมาจำนองได้ทั้งตึกแถว อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โดยต้องมีโฉนดที่ดินหรือหนังสือสำคัญกรรมสิทธิ์ที่ถูกต้อง และใบอนุญาตประกอบธุรกิจ
  1. สังหาริมทรัพย์

หมายถึงทรัพย์สินที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ซึ่งมีด้วยกันหลายอย่าง เช่น ทอง เครื่องเพชร รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ด้วย




ข้อดีของการจำนอง มีอะไรบ้าง?

  • ค่าใช้จ่ายดำเนินการต่ำ: ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนองปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1% ของวงเงินจำนอง และมีค่าอากรต่ำเมื่อเทียบกับธุรกรรมทางการเงินประเภทอื่น
  • ยังสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินได้ตามปกติ: ขณะที่ทรัพย์ถูกจำนอง ผู้จำนองยังคงเป็นเจ้าของทรัพย์ และยังใช้ประโยชน์จากบ้านหรือที่ดินนั้นได้ เช่น อยู่อาศัย ทำธุรกิจ หรือปล่อยเช่า
  • ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน: เหมาะกับผู้ที่ต้องการเงินก้อนเพื่อนำไปหมุนเวียน ลงทุน หรือใช้จ่ายในยามฉุกเฉินโดยไม่ต้องขายทรัพย์




ข้อเสียของการจำนอง มีอะไรบ้าง?

ข้อเสียของการจำนอง คือ หากผู้ขอกู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไข จะเสี่ยงต่อการถูกยึดทรัพย์หรือบังคับขายทอดตลาด ซึ่งอาจทำให้สูญเสียบ้านหรือที่ดินไปอย่างถาวร อีกทั้งวงเงินที่ได้รับจากการจำนองมักจะไม่สูงมาก เฉลี่ยประมาณ 30% ของราคาประเมิน




ก่อนทำสัญญาจำนองที่ดิน การจำนองบ้าน มีเรื่องอะไรที่ต้องรู้บ้าง

การทำสัญญาจำนองเป็นวิธีการกู้เงินวิธีหนึ่งที่ใช้ทรัพย์สินมาเป็นหลักประกัน ซึ่งก่อนที่จะทำสัญญาจำนอง ไม่ว่าจะเป็นสัญญาจำนองที่ดิน สัญญาจำนองบ้านคือสิ่งจำเป็นที่จะต้องอ่านสัญญาให้ละเอียด เพื่อป้องกันการเกิดความผิดพลาด ไปดูกันว่าก่อนทำสัญญาจำนอง ต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง


ศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบข้อเสนอจากธนาคารต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจ

  • เลือกวงเงินกู้ที่เหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนชำระ
  • ศึกษาเงื่อนไขสัญญาจำนองให้ละเอียด รวมถึงทำความเข้าใจค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ให้ดี
  • เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน และถูกต้อง
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายหรือการเงิน เพื่อช่วยให้เข้าใจสัญญาได้ง่ายขึ้น และไม่ถูกหลอกง่าย ๆ




หนังสือสัญญาจำนองที่ดิน การจำนองบ้าน ควรมีรายละเอียดอะไรบ้าง

การทำหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน หรือการทำสัญญาจำนองบ้านนั้นคือ การนำโฉนดที่ดินไปจดทะเบียนไปกับผู้ให้กู้ เพื่อเป็นหลักประกันว่าผู้ขอกู้จะชำระหนี้ให้ครบถ้วน หากไม่ชำระหนี้ตามที่ตกลงตามสัญญา หรือผิดชำระหนี้ก็จะถูกยึดโฉนดไป ซึ่งหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน การจำนองบ้าน ควรมีรายละเอียดดังนี้


สิ่งที่ต้องระบุในสัญญา รายละเอียด
รายละเอียดทรัพย์ ระบุให้ชัดเจนว่าทรัพย์สินที่นำมาจำนองนั้นเป็นอะไร และมีลักษณะอย่างไร พร้อมทั้งบอกจำนวนให้มีความชัดเจน
วันเดือนปี ที่ทำสัญญาจำนอง ระบุวันเดือนปีที่ทำสัญญาให้มีความชัดเจน เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
ชื่อผู้ทำสัญญาทั้งผู้จำนองและผู้รับจำนอง ต้องมีการระบุชื่อผู้จำนองและผู้รับจำนองอย่างชัดเจน พร้อมทั้งระบุเลขประจำตัวประชาชน ของ สัญญาเป็นหนังสือ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ด้วย
จำนวนเงินกู้ ระบุรายละเอียดจำนวนเงินกู้ให้เรียบร้อย
อัตราดอกเบี้ย เขียนรายละเอียดอัตราดอกเบี้ยให้ชัดเจนลงในสัญญาไม่ว่าให้ไว้ว่า เป็นอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ หรือแบบลอยตัวก็ตาม
กำหนดเวลาชำระ ในสัญญาจำนองต้องระบุเวลาในการชำระหนี้ให้ชัดเจน พร้อมทั้งกำหนดวันเวลาที่แน่นอนเพื่อป้องกันการคำนวณดอกเบี้ยที่ผิดพลาด
จำนวนครั้งที่สามารถผิดนัดชำระ ในกรณีที่เกิดการผิดชำระ ให้ระบุจำนวนครั้งตามสมควรที่จะสามารถผิดนัดได้พร้อมทั้งบอกวิธีการที่จะแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดการผิดสัญญาในอนาคต
การเซ็นสัญญา ในส่วนสุดท้ายของสัญญาจำนองจะต้องมีการเซ็นสัญญา โดยจะต้องมีลายเซ็นของผู้จำนอง ผู้รับจำนอง พยาน 2 คน เจ้าพนักงานที่ดิน ผู้เขียนสัญญา และผู้ตรวจสัญญา




การทำสัญญาจดจำนองมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?

การทำสัญญาจดจำนอง จำเป็นต้องดำเนินการต่อหน้าเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน และมีขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้

  1. เตรียมเอกสารที่เกี่ยวกับการจำนองให้ครบถ้วน
  2. ยื่นคำร้องขอดำเนินการจดจำนอง โดยผู้จำนอง และผู้รับจำนองตกลงรายละเอียด และยื่นเอกสาร ณ สำนักงานที่ดิน โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบความถูกต้องทั้งหมด
  3. จัดทำ และอ่านสัญญาจำนอง โดยระบุชัดเจนในสัญญาว่า:
    • รายละเอียดของทรัพย์สินที่นำมาจำนอง (เลขที่โฉนด ที่ตั้ง)
    • ชื่อ-ที่อยู่ผู้จำนองและผู้รับจำนอง
    • วงเงินกู้ อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อนชำระ
    • ข้อสัญญา และเงื่อนไขต่าง ๆ
  4. ชำระค่าธรรมเนียมจดจำนอง: ชำระตามที่กฎหมายกำหนด โดยปกติจะคิดเป็น 1% ของวงเงินที่จดจำนอง
  5. รับเอกสารสัญญา และโฉนดที่มีบันทึกจำนอง: เมื่อเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่จะมอบสัญญาที่ลงนามแล้ว และโฉนดที่มีการลงบันทึกจำนองคืนให้ แต่โฉนดตัวจริงมักอยู่ที่ผู้รับจำนองจนกว่าหนี้จะหมด




กรณีลูกหนี้ไม่จ่ายหรือผิดนัดชำระ และต้องการให้ทรัพย์สินถูกนำไปขายทอดตลาดต้องทำอย่างไร?

หากลูกหนี้ไม่ชำระหรือผิดนัดการจ่ายเงิน เจ้าหนี้มีสิทธิแจ้งเตือนให้ชำระหนี้ภายในระยะเวลาอย่างน้อย 60 วัน หากยังไม่จ่าย เจ้าหนี้สามารถฟ้องร้องต่อศาล เพื่อให้ศาลมีคำสั่งนำทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยเงินจากการขายจะนำไปใช้ชำระหนี้กับเจ้าหนี้เป็นอันดับแรก ส่วนที่เหลือ (ถ้ามี) จะคืนให้ลูกหนี้หรือจัดสรรให้เจ้าหนี้รายอื่นตามลำดับ โดยขั้นตอนทั้งหมดจะทำอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย




กรณีลูกหนี้ไม่จ่ายหรือผิดนัดชำระ และต้องการให้ทรัพย์สินที่นำมาค้ำหลุดจากสิทธิของลูกหนี้ต้องทำอย่างไร?

หากลูกหนี้ไม่จ่ายหรือผิดนัดชำระเงินกู้ และเจ้าหนี้ต้องการให้ทรัพย์สินที่นำมาค้ำประกันหลุดจากสิทธิของลูกหนี้ เจ้าหนี้จะต้องแจ้งเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรให้ลูกหนี้ชำระหนี้ภายในเวลาที่กำหนด (ไม่น้อยกว่า 60 วัน) หากลูกหนี้ยังไม่ชำระ เจ้าหนี้ต้องดำเนินการฟ้องต่อศาล เพื่อขอให้ศาลมีคำพิพากษา และมีคำสั่งบังคับให้ขายทอดตลาดหรือดำเนินการในรูปแบบที่กฎหมายกำหนด




สัญญาการจำนองที่ดิน การจำนองบ้าน มีอายุนานเท่าไร

การทำสัญญาจำนองเป็นภาระผูกพันทางกฎหมายที่ไม่ได้มีอายุความตามกฎหมาย แต่สัญญาจะไม่มีผลทางกฎหมายแล้วก็ต่อเมื่อผู้จำนองจ่ายหนี้ครบทั้งหมด




ขายฝากคืออะไร

ขายฝากคืออะไร

การขายฝาก เป็นการทำนิติกรรมในรูปแบบของการขายทรัพย์สิน ทั้งที่เป็นทรัพย์สิน ประเภทอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน คอนโด ที่ดิน หรือทรัพย์สินประเภท สังหาริมทรัพย์ เช่น รถยนต์ เป็นต้น ให้กับผู้รับซื้อฝาก โดยการทำสัญญาเอกสารขายฝากที่ดิน และมีข้อตกลงกันว่าผู้ขายฝากสามารถไถ่ทรัพย์สินนั้นคืนได้ตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่ตกลงกัน ซึ่งกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ขายฝากจะตกเป็นของผู้รับซื้อฝากทันทีที่ขายฝากและได้ส่งมอบทรัพย์สินแก่ผู้รับซื้อฝาก




จุดเด่นของการขายฝาก มีอะไรบ้าง?

  • ได้เงินสดรวดเร็ว: ผู้ขายฝากจะได้รับเงินก้อนทันทีหลังทำสัญญา ไม่ต้องรอขั้นตอนอนุมัติที่ซับซ้อนแบบการกู้เงิน
  • ไม่ต้องตรวจเครดิตหรือมีคนค้ำประกัน: ไม่ยุ่งยากเรื่องเช็กประวัติเครดิตบูโรหรือหาผู้ค้ำประกัน ทำให้เข้าถึงเงินทุนได้ง่ายขึ้น
  • มีสิทธิ์ไถ่ถอนทรัพย์คืน: ผู้ขายฝากยังคงมีสิทธิ์ไถ่ถอนทรัพย์สินกลับคืนภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา
  • วงเงินสูงกว่าการกู้ทั่วไป: การขายฝากอสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดินหรือบ้าน ผู้ขายฝากมักได้วงเงินสูงกว่าการจำนองหรือกู้ธนาคาร
  • ขั้นตอนรวดเร็วและถูกกฎหมาย: การขายฝากเป็นธุรกรรมที่จดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่รัฐโดยตรง ทำให้แน่ใจได้ในเรื่องความปลอดภัย และได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
  • ดอกเบี้ยเป็นธรรมและกำหนดตามกฎหมาย: อัตราดอกเบี้ยในการขายฝากอสังหาริมทรัพย์มีการควบคุมตามกฎหมายโดยกำหนดสูงสุดไม่เกิน 15% ต่อปี


อัตราดอกเบี้ยบ้าน ล่าสุด อัปเดต ปี 2568 ทั้งสินเชื่อบ้าน - คอนโด




การขายฝากมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?

  1. ประกาศขายและตกลงรายละเอียด: เจ้าของทรัพย์สิน (ผู้ขายฝาก) แจ้งความประสงค์จะขายฝากทรัพย์ เช่น ที่ดิน บ้าน หรืออสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่น โดยทั้งสองฝ่าย (ผู้ขายฝาก และผู้รับซื้อฝาก) ตกลงเงื่อนไขเกี่ยวกับราคา และระยะเวลาไถ่ถอน ซึ่งรายละเอียดระยะเวลาไถ่ถอนจะต้องระบุไว้ชัดเจนในสัญญา
  2. จัดการแลกเปลี่ยน ณ สำนักงานที่ดิน: ดำเนินการเซ็นสัญญาขายฝาก ณ สำนักงานที่ดิน และมอบทรัพย์สิน (เช่น โฉนดที่ดิน) ให้กับผู้รับซื้อฝาก ซึ่งผู้ขายฝากได้รับเงินสดทันทีตามข้อตกลง
  3. การไถ่ถอน และสิ้นสุดสัญญา: เมื่อครบกำหนดสัญญา ผู้ขายฝากต้องนำเงินมาชำระคืนเพื่อไถ่ถอนทรัพย์สินของตนกลับคืน พร้อมดอกเบี้ยหากมีการตกลงไว้
    • กรณีไถ่ถอนครบ ผู้รับซื้อฝากจะคืนเอกสารสิทธิ์ (เช่น โฉนด) ให้กับผู้ขายฝาก
    • กรณีไม่ไถ่ถอนภายในเวลาที่กำหนด กรรมสิทธิ์ทรัพย์สินจะตกเป็นของผู้รับซื้อฝากทันที




การขายฝากต่างจากการขายปกติอย่างไร?

  • ขายฝาก คือการขายทรัพย์แบบมีเงื่อนไขให้ผู้ขายมีสิทธิไถ่ถอนทรัพย์กลับคืนในระยะเวลาตามที่สัญญาระบุ หากไถ่ถอนภายในเวลาจะได้กรรมสิทธิ์ทรัพย์กลับ แต่หากเลยกำหนด ทรัพย์จะตกเป็นของผู้รับซื้อฝากโดยถาวร
  • การขายปกติ เป็นการเปลี่ยนมือกรรมสิทธิ์ถาวร ผู้ขายไม่มีสิทธิใด ๆ กับทรัพย์หลังจากโอนกรรมสิทธิ์


หากอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ‘การขายฝาก’ เป็นโอกาสให้ผู้ขายนำทรัพย์ไปใช้เป็นเงินทุนชั่วคราวพร้อมทางเลือกไถ่ถอน ในขณะที่การขายปกติเป็นการจำหน่ายทรัพย์ เพื่อเปลี่ยนกรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์




รูปแบบของการขายฝากและการจำนองเป็นอย่างไร?

ก่อนจะไปหาข้อแตกต่างของการทำนิติกรรมทั้ง 2 รูปแบบ จำเป็นต้องทำความเข้าใจ รูปแบบ วิธีการ ขั้นตอนระหว่างการขายฝากและการจำนองให้ถ่องแท้ เพื่อเลือกใช้ได้ตรงจุด


อย่างไรก็ดี ในกรณีทรัพย์สินที่ขายฝากเป็นอสังหาริมทรัพย์ คู่สัญญาจะต้องนำสัญญาขายฝากไปจดทะเบียน ณ สำนักงานที่ดินที่มีเขตอำนาจด้วย การขายฝากจึงจะมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย ทั้งนี้ หากผู้ขายฝากไม่ได้ไถ่ทรัพย์สินคืนตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่ตกลงกันดังกล่าว ผู้ขายฝากจะหมดสิทธิไถ่ทรัพย์สินคืน โดยผู้รับซื้อฝากไม่ต้องไปใช้สิทธิฟ้องบังคับตามสัญญาขายฝากอีก




ตารางเปรียบเทียบ ขายฝากกับจํานองต่างกันอย่างไร?

การขายฝากและการจำนอง เป็นรูปแบบการทำนิติกรรม ซึ่งหลายคนยังสับสน และท้ายที่สุดอาจทำให้ตัดสินใจเลือกทำนิติกรรมผิดรูปแบบ ผิดวิธี ไม่ตรงตามเจตนาอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เหตุนี้จึงต้องแจกแจงข้อแตกต่างให้เห็นอย่างชัดเจน


ขายฝาก จำนอง
  • ต้องส่งมอบทรัพย์สินและกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินให้ผู้รับซื้อฝาก ผู้ขายฝากจึงไม่สามารถใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินต่อไป ไม่ว่าบ้าน คอนโด ที่ดิน หรือ รถยนต์ จนกว่าจะมีการไถ่ทรัพย์สินที่ขายฝากคืน
  • ไม่ต้องส่งมอบทรัพย์สินและกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินให้ผู้รับจำนอง ผู้จำนองจึงยังมีสิทธิใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินต่อไป ไม่ว่าบ้าน คอนโด ที่ดิน หรือ รถยนต์
  • ผู้ขายฝากมีสิทธิไถ่ทรัพย์สินคืนตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนดในสัญญาขายฝาก โดยกรณีอสังหาริมทรัพย์ กำหนดเวลาไถ่ทรัพย์สินคืนได้ไม่เกิน 10 ปี และ กรณีสังหาริมทรัพย์ ไม่เกิน 3 ปี นับแต่เวลาขายฝาก
  • หากผู้ขายฝากไม่มาไถ่ทรัพย์สินคืนตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนด ผู้ขายฝากเพียงหมดสิทธิไถ่ทรัพย์สินคืนต่อไป โดยไม่ต้องชำระเงินเพิ่มเติมให้ผู้รับซื้อฝากอีก
  • กฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาสูงสุดของการจำนองไว้
  • การจำนองจะสิ้นสุดลง เมื่อหนี้ที่มีการจำนองเป็นประกันสิ้นสุดลง หรือการจำนองสิ้นสุดลงด้วยเหตุอื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนด
  • หากผู้จำนองได้นำทรัพย์สินมาจำนองเพื่อประกันหนี้ของตนเอง และมีข้อตกลงว่าจะชำระหนี้จนครบถ้วน หากบังคับจำนองแล้วได้เงินไม่เพียงพอ ผู้จำนองยังมีหน้าที่ต้องชำระเงินเพิ่มเติมให้ผู้รับจำนองจนกว่าจะครบถ้วน
  • การขายฝากส่วนใหญ่ผู้ขายฝากจะได้วงเงินประมาณ 40-70% ของราคาประเมิน
  • การจำนองส่วนใหญ่ ผู้จำนองจะได้วงเงินประมาณ 10-30% ของราคาประเมิน
  • ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนขายฝาก ในอัตรา 2% ของราคาประเมิน
  • ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ (กรณีถือครองอสังหาริมทรัพย์ยังไม่เกิน 5 ปี) ในอัตรา 3.3% หรือ ค่าอากรแสตมป์ ในอัตรา 0.5% ของราคาประเมิน หรือราคาขายฝาก แล้วแต่ราคาใดจะสูงกว่า (ถ้าเสียค่าภาษีธุรกิจเฉพาะแล้ว ไม่ต้องเสียค่าอากรแสตมป์อีก)
  • ค่าภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย คำนวณจากราคาประเมิน ตามอัตราที่กรมสรรพากรกำหนด
  • ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนจำนอง ในอัตรา 1% จากวงเงินจำนองสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
  • ค่าอากรแสตมป์ กรณีการจำนองเพื่อเป็นประกันการกู้ยืมเงิน หรือการตกลงให้เบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคาร ตราสารกู้ยืมเงิน หรือการตกลงให้เบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคารทุกจำนวนเงิน 2,000 บาท หรือเศษของ 2,000 บาท เสียค่าอากรแสตมป์ 1 บาท แต่ไม่เกิน 10,000 บาท




ขายฝาก กับ จํานอง เหมาะกับใคร แบบไหนดีกว่า?

การขายฝากเหมาะกับคนที่ต้องการเงินสดด่วน และไม่ต้องผ่านขั้นตอนยุ่งยาก เช่น ตรวจเครดิตหรือมีผู้ค้ำประกัน รวมถึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการวงเงินสูง และยังต้องการสิทธิ์ไถ่ถอนทรัพย์ในอนาคต ส่วนการจำนองเหมาะกับผู้ที่ต้องการวงเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ และต้องการผ่อนชำระในระยะยาว โดยยังคงถือสิทธิ์ และใช้ประโยชน์จากทรัพย์ต่อไปได้ หากถามว่า แบบไหนดีกว่า? ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเป้าหมาย หากต้องการเงินด่วนและเงื่อนไขยืดหยุ่น การขายฝากจะเหมาะสมกว่า แต่ถ้าต้องการความมั่นคงในสิทธิ์ และดอกเบี้ยต่ำ การจำนองจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า




การทำสัญญาขายฝากและการทำสัญญาจำนอง ต้องทำที่ไหน?

สัญญาขายฝาก และสัญญาจำนองจะมีผลสมบูรณ์ และได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายก็ต่อเมื่อทำที่สำนักงานที่ดิน (กรมที่ดิน) และมีเจ้าหน้าที่รับรองเท่านั้น


ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจำนองคืออะไรและข้อแตกต่างระหว่างการขายฝากกับการจำนองไปแล้ว ต่อไปนี้ใครที่มีความจำเป็นต้องทำนิติกรรมทั้ง 2 รูปแบบ จะสามารถพิจารณาจุดเด่น จุดด้อย และเลือกใช้บริการได้อย่างถูกต้อง ทั้งนี้ ควรเลือกนายทุนหรือบริษัทที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อป้องกันสิทธิประโยชน์ของตัวเราเอง


เปลี่ยนที่ดินของคุณให้เป็นเงินก้อน ด้วยบริการขายฝากที่ดิน Xspring ได้เงินไว ดอกเบี้ยถูก วงเงินสูง


เปลี่ยนที่ดินของคุณให้เป็นเงินก้อน ด้วยบริการขายฝากที่ดิน Xspring ได้เงินไว ดอกเบี้ยถูก วงเงินสูง เปลี่ยนที่ดินของคุณให้เป็นเงินก้อน ด้วยบริการขายฝากที่ดิน Xspring ได้เงินไว ดอกเบี้ยถูก วงเงินสูง




คำถามที่พบบ่อย "จำนองบ้าน จำนองที่ดิน และขายฝาก"

Q :

ค่าจดจำนอง กับค่าโอนเหมือนกันไหม?

A :

หลายคนอาจเข้าใจผิดคิดว่าค่าจดจำนองและค่าโอนเป็นสิ่งเดียวกัน แท้จริงแล้วทั้งสองค่าใช้จ่ายนี้มีความหมายและวิธีการคำนวณที่แตกต่างกัน โดยค่าโอน เป็นค่าธรรมเนียมที่ต้องเสียในการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ ส่วน ค่าจดจำนอง เป็นค่าธรรมเนียมที่ต้องเสียเฉพาะกรณีที่กู้เงินเพื่อซื้อที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์


Q :

ค่าจดจํานองบ้าน คิดยังไง?

A :

ค่าจดจำนองเป็นค่าธรรมเนียมที่ต้องเสียเฉพาะกรณีที่กู้เงิน เพื่อซื้อที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะคิดในอัตรา 1% จากราคาจำนอง แต่จะเสียไม่เกิน 200,000 บาท


Q :

ที่ดินติดจํานอง สร้างบ้านได้ไหม?

A :

สำหรับที่ติดที่ติดจำนองอยู่นั้น สามารถก่อสร้างบ้านได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากผู้รับจำนอง


Q :

ที่ดินเปล่า จํานองได้ไหม?

A :

ที่ดินเปล่า ถือเป็นอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่สามารถจำนองได้ แต่จะต้องเป็นที่ดินที่มีโฉนดถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น


Q :

บ้านติดจํานองธนาคาร ขายได้ไหม?

A :

บ้านติดจำนอง เป็นบ้านที่เจ้าของเดิมนั้นนำมาเป็นหลักค้ำประกัน เพื่อกู้เงิน แต่หากมีการผิดชำระก็จะถูกริบบ้าน เพื่อนำขายทอดตลาด บ้านที่ติดจำนองจึงสามารถซื้อขายได้ปกติ


ได้ทุกอย่าง!
ยูนิตบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม ราคาพิเศษ

คู่มืออสังหาฯยอดนิยม

  1. ดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 1.75% แล้วคนซื้อบ้านได้ประโยชน์อะไร อ่านเพิ่มเติม >


  1. ซื้อบ้านควรหันทิศไหนดี ทิศใต้หรือทิศเหนือตามฮวงจุ้ย อ่านเพิ่มเติม >


  1. ผ่อนคอนโดเดือนละ 3,000-5,000 ทำได้จริงหรือหลอก? | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >


  1. รวมมาตรการกระตุ้นซื้อบ้าน อสังหา 2568 ลดค่าโอน ดอกเบี้ยถูก | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >


  1. ส้วมตัน ชักโครกกดไม่ลง มีสาเหตุมาจากอะไร พร้อมวิธีแก้ส้วมตันด้วยตัวเอง อ่านเพิ่มเติม >


คำถามที่พบบ่อย

  • A :
  • - ซื้อบ้าน เป็นการลงทุนระยะยาว แต่สามารถสร้างสินทรัพย์ให้ตัวเองได้ และถ้าเลือกซื้อในทำเลที่ดีมีแนวโน้มที่จะสร้างกำไรได้
    - เช่าบ้าน เหมาะกับคนที่ยังไม่มั่นใจเรื่องทำเล และไม่ต้องการที่จะมีภาระผูกพันระยะยาว แต่ก็จะไม่มีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง และค่าเช่าอาจจะเพิ่มขึ้นหรือถูกบังคับให้ย้ายออก หากเจ้าของบ้านต้องการขายหรือใช้งานเอง

    สามารถเลือกดูโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมน่าลงทุนที่คุ้มค่าน่าซื้อได้ที่แสนสิริ

บทความที่เกี่ยวข้องกับ “เรื่องควรรู้ก่อนเริ่มลงทุน”

ลงทุนอสังหาฯ 2568 บ้านหรู ดาวเด่น โตต่อเนื่อง

มุมมองลงทุนอสังหาริมทรัพย์ 2568 บ้านหรู เติบโตสวนกระแส ดีดตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของซัพพลายหรือดีมานด์ โดยเฉพาะกลุ่มกำลังซื้อคนไทยระดับบน

เทรนด์ลงทุนใหม่ บ้านหรูใกล้เมือง กรุงเทพกรีฑา และบางนา

ลงทุนบ้านหรู กระแสใหม่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะบ้านหรูใกล้เมือง ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพรอบด้าน ครบทุกความสะดวก อยู่กีดี ลงทุนก็คุ้ม อย่างกรุงเทพกรีฑาและบางนา

Backlog คืออะไร ความสำคัญอย่างไร ทำไมนักลงทุนอสังหาควรรู้

Backlog คืออะไร? ระหว่าง Presale และ Backlog แตกต่างอย่างไร ทำไมถึงสำคัญ พร้อมแนะนำกลยุทธ์การเลือกจังหวะเวลาลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง

ลงทุนอสังหาฯ 2568 บ้านหรู ดาวเด่น โตต่อเนื่อง

มุมมองลงทุนอสังหาริมทรัพย์ 2568 บ้านหรู เติบโตสวนกระแส ดีดตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของซัพพลายหรือดีมานด์ โดยเฉพาะกลุ่มกำลังซื้อคนไทยระดับบน

เทรนด์ลงทุนใหม่ บ้านหรูใกล้เมือง กรุงเทพกรีฑา และบางนา

ลงทุนบ้านหรู กระแสใหม่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะบ้านหรูใกล้เมือง ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพรอบด้าน ครบทุกความสะดวก อยู่กีดี ลงทุนก็คุ้ม อย่างกรุงเทพกรีฑาและบางนา

ไม่พลาด ข่าวสารและบทความดีๆ

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อรับข่าวสาร และข้อมูลสิทธิพิเศษจากแสนสิริก่อนใคร

ประเภทโครงการที่คุณสนใจ


เพื่อให้ท่านทราบวิธีและกระบวนการ ที่เราดำเนินการจัดเก็บข้อมูล วัตถุประสงค์การใช้ข้อมูล ​
ท่านสามารถศึกษารายละเอียด แบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ได้ที่นี่ คลิก

ได้ทุกอย่าง!
ยูนิตบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม ราคาพิเศษ

คู่มืออสังหาฯยอดนิยม

  1. ดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 1.75% แล้วคนซื้อบ้านได้ประโยชน์อะไร อ่านเพิ่มเติม >


  1. ซื้อบ้านควรหันทิศไหนดี ทิศใต้หรือทิศเหนือตามฮวงจุ้ย อ่านเพิ่มเติม >


  1. ผ่อนคอนโดเดือนละ 3,000-5,000 ทำได้จริงหรือหลอก? | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >


  1. รวมมาตรการกระตุ้นซื้อบ้าน อสังหา 2568 ลดค่าโอน ดอกเบี้ยถูก | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >


  1. ส้วมตัน ชักโครกกดไม่ลง มีสาเหตุมาจากอะไร พร้อมวิธีแก้ส้วมตันด้วยตัวเอง อ่านเพิ่มเติม >